เสารูปแบบนี้ รับแรงแบบไหน?

เสาเป็นชิ้นส่วนโครงสร้างที่ทำหน้าที่รับแรงอัดเป็นหลัก จึงต้องมีความแกร่งและแข็งแรง การเลือกใช้เหล็ก H-BEAM มาเป็นโครงสร้างส่วนนี้จึงช่วยตอบโจทย์การรรับแรงของอาคารในทุกประเภทได้เป็นอย่างดี

การก่อสร้างอาคารแต่ละประเภท โดยทั่วไปจะมีรายละเอียดการออกแบบโครงสร้างที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะถูกออกแบบให้สามารถรับแรงได้อย่างเหมาะสมตามขนาดอาคารและการใช้งาน เช่น ในอาคารขนาดเล็กที่ไม่ต้องรับแรงพิเศษอื่น ๆ มาก ส่วนใหญ่จะเห็นเสา H-BEAM ในรูปแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือในโรงงาน โกดัง อาคารขนาดใหญ่ก็จะเห็นรูปแบบของเสาที่ซับซ้อนมากขึ้น

นั่นเป็นเพราะยิ่งอาคารมีขนาดใหญ่มากเท่าไหร่ แรงกระทำที่เสาต้องรับและถ่ายลงสู่ฐานรากก็มากขึ้นเท่านั้น รูปแบบเสาจึงต้องถูกปรับเปลี่ยนไปให้แข็งแรงมากขึ้น และในบางครั้งก็ช่วยแบ่งเบาการรับแรงมาจากโครงสร้างคานด้วย

ดังนั้นการให้วิศวกรโครงสร้างออกแบบ คำนวณและเลือกใช้รูปแบบของเสาอย่างเหมาะสมกับรูปแบบของงานก่อสร้าง จึงช่วยให้โครงสร้างที่ได้มีความมั่นคงแข็งแรง รวมถึงถ่ายแรงอัดและแรงอื่น ๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

Square – เสาหน้าตัดสี่เหลี่ยมจัตุรัสกับการรับแรงอัด

เสาหน้าตัดสี่เหลี่ยมจัตุรัส เป็นหน้าตัดพื้นฐานที่มักใช้ในการก่อสร้าง โดยเสาจะมีด้านกว้างและด้านลึกเท่า ๆ กัน คุณสมบัติคือ ทำหน้าที่รับแรงอัดโดยเฉพาะ โดยจะรับแรงอัดจากโครงสร้างที่อยู่เหนือขึ้นไปถ่ายลงสู่ฐานรากและพื้นดิน

เหมาะกับโครงการก่อสร้างขนาดเล็ก – กลาง เช่น บ้านพักอาศัยขนาดเล็ก ใช้เสาเหล็ก H-BEAM ขนาด 100×100 อาคารพาณิชย์ ใช้เสาเหล็กขนาด 150×150 หรือออฟฟิศและโรงแรมที่ใหญ่ขึ้น อาจใช้เสาเหล็ก H-BEAM ขนาด 200×200 เป็นต้นไป

 

Rectangular – เสาหน้าตัดสี่เหลี่ยมผืนผ้ากับการรับแรงดัดร่วมด้วย

เสาหน้าตัดสี่เหลี่ยมจัตุรัสสามารถรับแรงอัดได้ดี แต่ในบางโครงการก่อสร้างมีความต้องการให้เสารับแรงดัดช่วยคานด้วย เพื่อลดการแอ่นตัวหรือที่เรียกว่าแอ่นท้องช้างของคาน โดยจะทำการปรับหน้าตัดจากที่มีความกว้างและยาวเท่ากัน ให้เป็นหน้าตัดสี่เหลียมแบบผืนผ้า หรือ Rectangular ที่มีด้านลึกมากกว่าด้านกว้าง

ซึ่งรูปแบบนี้จะทำให้เสาแบ่งเบาการรับแรงดัดจากคานได้ ทำให้คานมีภาระการรับแรงดัดน้อยลง และหากวิศวกรสามารถออกแบบได้อย่างชำนาญจะช่วยให้คานมีขนาดเล็กลงจากเดิมได้ด้วย ระยะ Floor to Ceiling จึงเพิ่มขึ้น พื้นที่ใช้งานจึงโปร่งโล่งมากขึ้นได้นั่นเอง

เหมาะกับโครงสร้างที่ต้องการโครงสร้างพิเศษ Span กว้าง ต้องการการรับแรงที่มากขึ้น อย่างอาคารสูงในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว โรงงานหรือโกดัง โดยอาจเลือกใช้เป็นเหล็ก H-BEAM ขนาด 300×200, 400×300 หรือ 500×300 ขึ้นไปได้

 

Composite – เสาคอนกรีตเสริมเหล็ก H-BEAM รับแรงดีขึ้น ในขนาดที่เล็กลง

รูปแบบเสาประกอบหรือ Composite Column คือเสาคอนกรีตที่มีการเสริมเหล็กด้านในด้วย H-BEAM แทนการใช้เหล็กเส้น ซึ่งรูปแบบนี้จะทำให้เสาสามารถรับแรงได้ดีมากขึ้น เพราะเหล็ก H-Beam จะเข้าไปช่วยรับแรงอัดที่เกิดขึ้นในเสาคอนกรีตได้ 

นอกจากด้านความแข็งแรงแล้ว เสา Composite ยังช่วยให้ขนาดเสาเล็กลง ทำให้เกิด Floor Area ที่ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น โครงการที่เหมาะกับการนำเสาประเภทนี้ไปใช้งาน เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน หรือ Commercial Area เพราะจะได้พื้นที่เช่าหรือพื้นที่ห้องพักที่เพิ่มขึ้นมา

 

H-BEAM จาก SYS ตอบโจทย์โครงสร้างเสา ครบจบทุกความต้องการ 

เหล็ก H-BEAM จาก SYS เป็นเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนที่ผลิตและขึ้นรูปในโรงงานที่ได้มาตรฐานทุกขั้นตอน จึงพร้อม Support ความต้องการใช้งานเป็นโครงสร้างเสาของอาคารได้ในทุกขนาดหน้าตัด อีกทั้งยังมีทีม Steel Solution by SYS คอยให้คำแนะนำตลอดการเตรียมการด้วย จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รูปแบบเสาตามที่ต้องการ สามารถรับแรงได้ดี

สนใจบริการหรือผลิตภัณฑ์จาก SYS สามารถติดตามข่าวสารและช่องทางติดต่อได้ที่

WEBSITE-SYS STEEL: https://bit.ly/3qYADQ0 

YOUTUBE: http://bit.ly/3asNqnp 

LINE: https://bit.ly/3gEI0tz 

TikTok: https://bit.ly/46AnaTP