ในการก่อสร้าง การใช้วัสดุโดยทั่วไป ที่มีความตรง ได้ตามมาตรฐาน จะช่วยทำให้ภาพรวมของโครงสร้างมีความแข็งแรงมั่นคง เช่นเดียวกับโครงสร้างเหล็ก ที่การเลือกเหล็กโครงสร้างรูปพรรณที่มีคุณภาพ ระยะและขนาดที่ได้มาตรฐานมาใช้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การต่อเหล็ก เชื่อมเหล็ก และ การก่อสร้างสามารถดำเนินไปได้อย่างคล่องตัว ไม่มีปัญหาตามมา เช่นเดียวกับเหล็ก H-Beam ของ SYS ที่มีการทดสอบ ตรวจสอบผลจากการผลิตทุกครั้งเพื่อให้ได้เหล็กโครงสร้างที่มีคุณภาพ ตรงตามมาตรฐาน ให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ

Web off Center จุดสังเกตก่อนต่อเหล็ก
.
โดยทั่วไปเหล็กโครงสร้าง H-Beam จะมีส่วนประกอบอยู่ 2 ส่วนคือ ส่วนปีก (Flange) และส่งเอวที่อยู่ตรงกลาง (Web) ซึ่งในการผลิตนั้นการควบคุมให้ส่วนประกอบของ H-Beam สมมาตร หรือ อยู่ตรงกลาง 100% นั้นเป็นไปได้ยาก ส่วนเอวหรือส่วนปีกของเหล็กจึงมีการเบี่ยงไปทางซ้ายหรือขวาเล็กน้อย เรียกระยะการเบี่ยงที่ไม่สมมาตรของเหล็กนี้ว่า Web off Center หรือที่ระบุในมาตรฐาน มอก. คือ ค่า Eccentricity (S) โดยมาตรฐาน มอก. ได้มีการระบุค่าคลาดเคลื่อนของระยะเบี่ยงของเหล็กหรือ Web of Center หรือ ค่า Eccentricity (S) ไว้ที่ไม่เกิน 2.5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นระยะที่ยังสามารถนำเหล็กไปใช้งาน เชื่อมหรือต่อกันได้โดยไม่มีปัญหา
.
โดยทั่วไปเหล็กโครงสร้าง H-Beam จะมีส่วนประกอบอยู่ 2 ส่วนคือ ส่วนปีก (Flange) และส่งเอวที่อยู่ตรงกลาง (Web) ซึ่งในการผลิตนั้นการควบคุมให้ส่วนประกอบของ H-Beam สมมาตร หรือ อยู่ตรงกลาง 100% นั้นเป็นไปได้ยาก ส่วนเอวหรือส่วนปีกของเหล็กจึงมีการเบี่ยงไปทางซ้ายหรือขวาเล็กน้อย เรียกระยะการเบี่ยงที่ไม่สมมาตรของเหล็กนี้ว่า Web off Center หรือที่ระบุในมาตรฐาน มอก. คือ ค่า Eccentricity (S) โดยมาตรฐาน มอก. ได้มีการระบุค่าคลาดเคลื่อนของระยะเบี่ยงของเหล็กหรือ Web of Center หรือ ค่า Eccentricity (S) ไว้ที่ไม่เกิน 2.5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นระยะที่ยังสามารถนำเหล็กไปใช้งาน เชื่อมหรือต่อกันได้โดยไม่มีปัญหา

ระยะเบี่ยงที่น้อยลง ส่งผลต่อการต่อเหล็กได้ง่ายมากขึ้น
.
ผลที่เกิดขึ้นจากเหล็กที่มีการเบี่ยงซ้ายขวาที่มากกว่าค่ามาตรฐาน จะทำให้การต่อเหล็กโครงสร้างเกิดการเหลื่อมกัน อาจจำเป็นที่จะต้องเชื่อมเหล็กในส่วนของรอยต่อให้หนาขึ้น การตรวจสอบความเรียบร้อยและการควบคุมคุณภาพการเชื่อมก็ยากขึ้น อีกทั้งหากเหล็กที่ใช้มีการเบี่ยงที่มากเมื่อต่อเหล็กหลายท่อนอาจส่งผลให้ Center line ของโครงสร้างไม่ตรง มีการเยื้องศูนย์และคลาดเคลื่อนมาก เมื่อต้องรับน้ำหนัก น้ำหนักจะไม่ลงมาตามโครงสร้างตรง ๆ ซึ่งมีโอกาสทำให้โครงสร้างอาคารเสียหายได้ การเลือกใช้เหล็กมาก่อสร้างจึงต้องเลือกเหล็กที่ได้มาตรฐานและต้องดูข้อมูลในส่วนนี้ประกอบกันด้วย
.
ผลที่เกิดขึ้นจากเหล็กที่มีการเบี่ยงซ้ายขวาที่มากกว่าค่ามาตรฐาน จะทำให้การต่อเหล็กโครงสร้างเกิดการเหลื่อมกัน อาจจำเป็นที่จะต้องเชื่อมเหล็กในส่วนของรอยต่อให้หนาขึ้น การตรวจสอบความเรียบร้อยและการควบคุมคุณภาพการเชื่อมก็ยากขึ้น อีกทั้งหากเหล็กที่ใช้มีการเบี่ยงที่มากเมื่อต่อเหล็กหลายท่อนอาจส่งผลให้ Center line ของโครงสร้างไม่ตรง มีการเยื้องศูนย์และคลาดเคลื่อนมาก เมื่อต้องรับน้ำหนัก น้ำหนักจะไม่ลงมาตามโครงสร้างตรง ๆ ซึ่งมีโอกาสทำให้โครงสร้างอาคารเสียหายได้ การเลือกใช้เหล็กมาก่อสร้างจึงต้องเลือกเหล็กที่ได้มาตรฐานและต้องดูข้อมูลในส่วนนี้ประกอบกันด้วย

การควบคุมค่ามาตรฐานให้แคบลง ช่วยให้เหล็กต่อได้ตรงและมั่นคงมากขึ้นแม้ในปัจจุบันมาตรฐาน มอก. กำหนดระยะที่เหล็ก H-Beam สามารถเบี่ยงและไม่สมมาตร ยอมได้ที่ 2.5 mm. แต่ความต้องการของการก่อสร้างหรือความต้องการของผู้ใช้งานบางส่วน ก็ต้องการวัสดุที่มีความละเอียดและคลาดเคลื่อนน้อยกว่าที่เป็นอยู่ ทาง SYS ได้เล็งเห็นถึงปัญหาและความต้องการที่เกิดขึ้น จึงมีการปรับและควบคุมการผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนจากที่การผลิต จะต้องมีค่าไม่เกินที่มาตรฐาน มอก. อนุญาตอยู่แล้ว แต่ SYS ได้พยายามควบคุมให้มีค่า Web off Center หรือค่า Eccentricity (S) นี้ ให้แคบลงกว่าเดิม อยู่ที่ประมาณ 1 – 2 mm.เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจ ลดปัญหาเหล็กโครงสร้างเหลื่อมกัน ให้โครงสร้างแข็งแรงมั่นคง ตลอดการใช้งาน