By

SteelMaster

18 January 21
ก้าวสู่วงการก่อสร้างยุคดิจิทัลด้วย “เทคโนโลยี BIM” กับโครงการอาคารโกดังสินค้า Nikkei
Siam
“เราชอบทำงานเหล็ก แล้วเทคโนโลยี BIM คือสิ่งที่มาตอบโจทย์” เสียงยืนยันจากประสบการณ์ทำงานของวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ
คุณปณิธิ พรหมสาขา ณ สกลนคร จากบริษัท ดีเซนนอ จำกัด และคุณธัชชาย ธนพิศุทธิ์วงศ์
ผู้ออกแบบและก่อสร้างโครงการอาคารโกดังสินค้า Nikkei Siam กับการเลือกใช้เทคโนโลยี
BIM มาประยุกต์ใช้กับงานออกแบบและก่อสร้างของโครงการนี้

BIM หรือ Building Information Modeling เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับวงการงานสถาปัตยกรรม
และการก่อสร้าง ที่เริ่มตั้งแต่การออกแบบอาคารไปจนถึงการก่อสร้าง โดยการใช้ระบบคอมพิวเตอร์มาควบคุมกระบวนการต่างๆ
ระบบสามารถสร้างแบบจำลองเสมือนของอาคารที่แม่นยำ ซึ่งช่วยตั้งแต่ในกระบวนการออกแบบ
การเขียนแบบ การคำนวณโครงสร้าง การประมาณราคา การจัดซื้อ และรวมไปถึงการวางแผนงานต่างๆ
ของอาคาร ที่ไม่ได้เพียงสร้างประโยชน์กับโครงการขนาดใหญ่อย่างอาคารสูง แต่ BIM Process สามารถนำมาใช้ได้กับงานหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึง
งานขนาดกลางที่จับต้องได้อย่างอาคารโกดังสินค้า Nikkei Siam ที่ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
แตกต่างจากการทำงานรูปแบบเดิมๆ

วิเคราะห์และวางแผนการก่อสร้าง
จบครบในงบประมาณจำกัด
จุดเริ่มต้นของ “อาคารโกดังสินค้า Nikkei Siam” มาจากวัตถุประสงค์ของบริษัท
นิคเคสยามอลูมิเนียม จำกัด ที่ต้องการจะปรับปรุงพื้นที่ดินเดิมภายในบริเวณโรงงานซึ่งถูกใช้เป็นที่กองเก็บเศษอลูมิเนียมมานานกว่า 10 ปี เพื่อสร้างเป็นอาคารโกดังเก็บสินค้าขนาด 2,000 ตารางเมตรในงบประมาณการก่อสร้างที่จำกัด ซึ่งด้วยโจทย์สำคัญนี้เองที่ทำให้ทางผู้ออกแบบได้ร่วมกันวิเคราะห์
ออกแบบและเสนอแนวทางการก่อสร้างอาคารนี้ในรูปแบบของอาคารโครงสร้างเหล็กที่ไม่ลงเสาเข็ม
แต่ใช้ประโยชน์จากความแน่นของพื้นที่ดินเดิมที่ผ่านการกดทับของน้ำหนักอลูมิเนียมกว่า
10 ปีมาช่วยในการรับน้ำหนักเพื่อตอบโจทย์เรื่องการลดต้นทุนในการก่อสร้าง
ซึ่งตั้งแต่เริ่มต้นผู้ออกแบบทำงานร่วมกับเทคโนโลยี
BIM ทั้งการสำรวจ-เก็บข้อมูลพื้นที่ ออกแบบและนำเสนอแผนงานที่มีคุณภาพในงบประมาณที่คุ้มค่า จึงสร้างความประทับใจให้กับทางนิคเคสยามที่เลือกผู้ออกแบบให้เข้ามารับผิดชอบในโครงการนี้

ลดข้อผิดพลาดด้วยความแม่นยำกับอุปกรณ์
3D Laser Scanner
อุปกรณ์กล้อง 3D Laser Scanner คือตัวช่วยสำคัญที่ถูกนำมาใช้ในการสำรวจ
เก็บข้อมูลสภาพพื้นที่และสิ่งที่มีอยู่เดิม (Existing) เพื่อความแม่นยำของขอบเขตไซต์ด้วยพอยต์คลาวด์ ( Point Cloud ) ซึ่งเป็นกลุ่มของจุดสามมิติ ที่ใช้เก็บค่าของตำแหน่งวัตถุได้ในพิกัด X,Y,Z เพื่อใช้ในการประมวลผลต่อไปเพื่อขึ้นรูปเป็น
3D Model ร่วมกับการทำงานของโปรแกรม Revit ซึ่งจะสามารถแปลงผลได้ละเอียดถึงเม็ดสีที่ไปสัมผัสวัสดุ จึงได้รายที่ละเอียดแม่นยำด้วยระยะเวลาสั้นๆ โดยสามารถเก็บได้ทั้งขนาดพื้นที่
ระยะต่าง ๆ ที่สามารถวัดด้วยระบบคอมพิวเตอร์ได้ จึงสามารถตอบทุกคำถามเกี่ยวกับพื้นที่และส่งต่อเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาแบบร่างต่อไปได้อย่างง่ายโดย
ลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน ลดความขัดแย้งและลดปัญหาที่จะเกิดจากความผิดพลาดของข้อมูลจากกระบวนการทำงานของคนลงไปได้ทั้งหมด

ออกแบบอาคารโกดังเหล็ก
“ไร้เสาเข็ม”
เนื่องจากการวิเคราะห์สภาพพื้นที่ดินซึ่งถูกแรงกดทับของกองแผ่นอลูมิเนียมนับสิบตันจนทำให้สภาพดินแกร่งเรียงตัวแน่นมีการทรุดตัวน้อย
วิศวกรผู้ออกแบบจึงใช้ประโยชน์จากสภาพดินในพื้นที่ ออกแบบก่อสร้างโกดังสินค้าเหล็กขนาด
2,000 ตรม. (20x100
เมตร) โดยใช้วิธีการไม่ลงเข็มและทำงานบนพื้นที่เดิม
- เริ่มต้นขั้นตอนก่อสร้างจากส่วนฐานอาคาร
ผู้ออกแบบใช้การออกแบบฐานอาคารให้เป็น Double layer ด้วยการใช้แผ่นพื้นเดิมเป็นฐาน
ปรับระดับใหม่ด้วยหินคลุกและทำแผ่นพื้นโรงงานใหม่ทับไปอีกชั้น
โดยเป็นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กที่ล้วงเหล็กผูกยึดกับตอม่ออาคารใหม่ ให้เป็นลักษณะฐานรากแผ่ที่รับโครงสร้างหลักทั้งหมด
เริ่มจากการเจาะฝังเหล็กเส้นยืนเจาะลึก 15-20 ซม. เป็นช่องตามตำแหน่งตอม่อยึดกับแผ่นเพลท
และประสานเหล็กกับคอนกรีตให้แน่นด้วยน้ำยาเคมีและคอนกรีตกำลังสูง ตามด้วยการเทปรับระดับด้วยหินคลุกบดอัดเต็มพื้นที่
และทับด้านบนด้วยโครงตะแกรงเหล็กรอบทิศเพื่อเทคอนกรีตหนา 25 ซม.เป็นฐากรากแผ่เต็มผิวสัมผัสเหล็กเป็นตอม่อ จึงทำให้ได้ฐานอาคารที่แข็งแรงมีความยึดรั้งเต็มที่พร้อมรับโครงสร้างอาคารหลัก

- ติดตั้งงานโครงสร้างเหล็ก
ตอบโจทย์ความแข็งแรง
รวดเร็วและดีไซน์เหล็กเนี้ยบสวยด้วยการใช้โครงสร้างเหล็ก ลักษณะเป็นเสาและโครงทรัส
ซึ่งใช้เสาเหล็ก H-beam SS400 เกรดคุณภาพของ SYS
ที่ได้หน้าตัดและความยาวเหล็กตรงตามสเปก ซึ่งสามารถติดตั้งเฉพาะโครงสร้างเหล็กได้เสร็จภายใน
1 เดือน


การออกแบบที่ตอบโจทย์
โดดเด่นด้วยวัสดุอลูมิเนียม
อาคารถูกดีไซน์เป็นหลังคาเพิงแหงน
(Lean-to Roof) ที่มีความยาวถึง 100 เมตร จึงต้องใช้การเสริมโครงสร้างค้ำยันด้วย Bracing กากบาทในทุก ๆ ระยะห่างระหว่างเสาเพื่อป้องกันการบิดตัวของโครงสร้าง
ซึ่งก็ทำให้ได้เส้นสายที่สวยงามของเหล็กที่ทำให้อาคารดูโดดเด่น แปลกตากว่าอาคารโกดังแบบเก่าๆ
จุดเด่นอีกอย่าง คือ
การประยุกต์ใช้แผ่นอลูมิเนียมของนิคเคสยามที่มีความหนากว่าแผ่นเมทัลชีทปกติมาทำการรีดลอนเอง
เพื่อใช้เป็นทั้งวัสดุมุงหลังคาและวัสดุผนังทั้งหมดของอาคาร นอกจากนี้ตัวอาคารยังมี
Canopy ด้านหน้าที่ยื่นยาวออกไปถึง 8 เมตร
และด้านข้างมีการออกแบบเปิดให้ลมไหลผ่านเพื่อหมุนเวียนอากาศภายในได้อย่างทั่วถึง
ซึ่งอาคารนี้ถูกออกแบบติดตั้งในระบบ Bolt Connection เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเป็นอาคารกึ่งชั่วคราวที่สามารถถอดเคลื่อนย้ายได้
โดยใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างทั้งโครงการเพียง 3 เดือน โดยใช้ระยะเวลาการติดตั้งงานโครงสร้างเหล็กทั้งหมดรวมทุกกระบวนการเหล็กเพียง
1 เดือนเท่านั้น

ตรวจรับงานอย่างมั่นใจด้วย
As Built
Drawing แบบ
Digital Data
ด้วยความสามารถของ BIM Process เมื่อดีไซน์เรียบร้อยสามารถที่จะนำไปทำงานต่อได้ทันที
เพื่อออกแบบดีเทลและถอดปริมาณเหล็ก จึงได้ผลลัพธ์ของปริมาณงานต่าง ๆ ที่แม่นยำ นำส่งโรงงานให้ไปผลิตชิ้นงานได้ง่าย
และสามารถนำโมเดลตัวนี้มาช่วยสร้างแผนงานเพื่อบริหารงานก่อสร้างต่อได้อีกด้วย เทคโนโลยี
BIM Process จึงเป็นส่วนสำคัญที่มาช่วยบริหารเวลาให้การก่อสร้างเสร็จได้ภายใน
3 เดือน และสามารถคุมงบประมาณได้ตามแผนที่วางไว้ จึงสร้างทั้งกำไรและความคุ้มค่าสูงสุด
เมื่อการก่อสร้างเสร็จสิ้น
ยังสามารถเก็บข้อมูลสุดท้ายด้วยพอยต์คลาวด์ ( Point Cloud ) และส่ง As Built Drawing แบบ Digital Data เพื่อให้เจ้าของสามารถตรวจรับงานได้อย่างละเอียด ผู้ออกแบบสามารถตอบทุกคำถามได้อย่างครบถ้วน
เพราะสามารถตรวจสอบวัดระยะชิ้นงานได้ทั้งหมดตามจริง ด้วยโมเดล 3D ที่ผู้ออกแบบจัดทำขึ้นมาให้เป็นทรัพย์สินแบบดิจิตอล


ขอขอบคุณวิศวกรออกแบบโครงสร้าง
คุณปณิธิ พรหมสาขา ณ สกลนคร จาก บริษัท ดีเซนนอ จำกัด
คุณธัชชาย ธนพิศุทธิ์วงศ์
ก้าวสู่วงการก่อสร้างยุคดิจิทัลด้วย “เทคโนโลยี BIM” กับโครงการอาคารโกดังสินค้า NikkeiSiam“เราชอบทำงานเหล็ก แล้วเทคโนโลยี BIM คือสิ่งที่มาตอบโจทย์” เสียงยืนยันจากประสบการณ์ทำงานของวิศวกรผู้เชี่ยวชาญคุณปณิธิ พรหมสาขา ณ สกลนคร จากบริษัท ดีเซนนอ จำกัด และคุณธัชชาย ธนพิศุทธิ์วงศ์ผู้ออกแบบและก่อสร้างโครงการอาคารโกดังสินค้า Nikkei Siam กับการเลือกใช้เทคโนโลยีBIM มาประยุกต์ใช้กับงานออกแบบและก่อสร้างของโครงการนี้ BIM หรือ Building Information Modeling เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับวงการงานสถาปัตยกรรมและการก่อสร้าง ที่เริ่มตั้งแต่การออกแบบอาคารไปจนถึงการก่อสร้าง โดยการใช้ระบบคอมพิวเตอร์มาควบคุมกระบวนการต่างๆระบบสามารถสร้างแบบจำลองเสมือนของอาคารที่แม่นยำ ซึ่งช่วยตั้งแต่ในกระบวนการออกแบบการเขียนแบบ การคำนวณโครงสร้าง การประมาณราคา การจัดซื้อ และรวมไปถึงการวางแผนงานต่างๆของอาคาร ที่ไม่ได้เพียงสร้างประโยชน์กับโครงการขนาดใหญ่อย่างอาคารสูง แต่ BIM Process สามารถนำมาใช้ได้กับงานหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงงานขนาดกลางที่จับต้องได้อย่างอาคารโกดังสินค้า Nikkei Siam ที่ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพแตกต่างจากการทำงานรูปแบบเดิมๆวิเคราะห์และวางแผนการก่อสร้างจบครบในงบประมาณจำกัด จุดเริ่มต้นของ “อาคารโกดังสินค้า Nikkei Siam” มาจากวัตถุประสงค์ของบริษัทนิคเคสยามอลูมิเนียม จำกัด ที่ต้องการจะปรับปรุงพื้นที่ดินเดิมภายในบริเวณโรงงานซึ่งถูกใช้เป็นที่กองเก็บเศษอลูมิเนียมมานานกว่า 10 ปี เพื่อสร้างเป็นอาคารโกดังเก็บสินค้าขนาด 2,000 ตารางเมตรในงบประมาณการก่อสร้างที่จำกัด ซึ่งด้วยโจทย์สำคัญนี้เองที่ทำให้ทางผู้ออกแบบได้ร่วมกันวิเคราะห์ออกแบบและเสนอแนวทางการก่อสร้างอาคารนี้ในรูปแบบของอาคารโครงสร้างเหล็กที่ไม่ลงเสาเข็มแต่ใช้ประโยชน์จากความแน่นของพื้นที่ดินเดิมที่ผ่านการกดทับของน้ำหนักอลูมิเนียมกว่า10 ปีมาช่วยในการรับน้ำหนักเพื่อตอบโจทย์เรื่องการลดต้นทุนในการก่อสร้างซึ่งตั้งแต่เริ่มต้นผู้ออกแบบทำงานร่วมกับเทคโนโลยีBIM ทั้งการสำรวจ-เก็บข้อมูลพื้นที่ ออกแบบและนำเสนอแผนงานที่มีคุณภาพในงบประมาณที่คุ้มค่า จึงสร้างความประทับใจให้กับทางนิคเคสยามที่เลือกผู้ออกแบบให้เข้ามารับผิดชอบในโครงการนี้ลดข้อผิดพลาดด้วยความแม่นยำกับอุปกรณ์3D Laser Scanner อุปกรณ์กล้อง 3D Laser Scanner คือตัวช่วยสำคัญที่ถูกนำมาใช้ในการสำรวจเก็บข้อมูลสภาพพื้นที่และสิ่งที่มีอยู่เดิม (Existing) เพื่อความแม่นยำของขอบเขตไซต์ด้วยพอยต์คลาวด์ ( Point Cloud ) ซึ่งเป็นกลุ่มของจุดสามมิติ ที่ใช้เก็บค่าของตำแหน่งวัตถุได้ในพิกัด X,Y,Z เพื่อใช้ในการประมวลผลต่อไปเพื่อขึ้นรูปเป็น3D Model ร่วมกับการทำงานของโปรแกรม Revit ซึ่งจะสามารถแปลงผลได้ละเอียดถึงเม็ดสีที่ไปสัมผัสวัสดุ จึงได้รายที่ละเอียดแม่นยำด้วยระยะเวลาสั้นๆ โดยสามารถเก็บได้ทั้งขนาดพื้นที่ระยะต่าง ๆ ที่สามารถวัดด้วยระบบคอมพิวเตอร์ได้ จึงสามารถตอบทุกคำถามเกี่ยวกับพื้นที่และส่งต่อเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาแบบร่างต่อไปได้อย่างง่ายโดยลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน ลดความขัดแย้งและลดปัญหาที่จะเกิดจากความผิดพลาดของข้อมูลจากกระบวนการทำงานของคนลงไปได้ทั้งหมดออกแบบอาคารโกดังเหล็ก“ไร้เสาเข็ม” เนื่องจากการวิเคราะห์สภาพพื้นที่ดินซึ่งถูกแรงกดทับของกองแผ่นอลูมิเนียมนับสิบตันจนทำให้สภาพดินแกร่งเรียงตัวแน่นมีการทรุดตัวน้อยวิศวกรผู้ออกแบบจึงใช้ประโยชน์จากสภาพดินในพื้นที่ ออกแบบก่อสร้างโกดังสินค้าเหล็กขนาด2,000 ตรม. (20x100เมตร) โดยใช้วิธีการไม่ลงเข็มและทำงานบนพื้นที่เดิม - เริ่มต้นขั้นตอนก่อสร้างจากส่วนฐานอาคาร ผู้ออกแบบใช้การออกแบบฐานอาคารให้เป็น Double layer ด้วยการใช้แผ่นพื้นเดิมเป็นฐานปรับระดับใหม่ด้วยหินคลุกและทำแผ่นพื้นโรงงานใหม่ทับไปอีกชั้นโดยเป็นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กที่ล้วงเหล็กผูกยึดกับตอม่ออาคารใหม่ ให้เป็นลักษณะฐานรากแผ่ที่รับโครงสร้างหลักทั้งหมดเริ่มจากการเจาะฝังเหล็กเส้นยืนเจาะลึก 15-20 ซม. เป็นช่องตามตำแหน่งตอม่อยึดกับแผ่นเพลทและประสานเหล็กกับคอนกรีตให้แน่นด้วยน้ำยาเคมีและคอนกรีตกำลังสูง ตามด้วยการเทปรับระดับด้วยหินคลุกบดอัดเต็มพื้นที่และทับด้านบนด้วยโครงตะแกรงเหล็กรอบทิศเพื่อเทคอนกรีตหนา 25 ซม.เป็นฐากรากแผ่เต็มผิวสัมผัสเหล็กเป็นตอม่อ จึงทำให้ได้ฐานอาคารที่แข็งแรงมีความยึดรั้งเต็มที่พร้อมรับโครงสร้างอาคารหลัก- ติดตั้งงานโครงสร้างเหล็ก ตอบโจทย์ความแข็งแรงรวดเร็วและดีไซน์เหล็กเนี้ยบสวยด้วยการใช้โครงสร้างเหล็ก ลักษณะเป็นเสาและโครงทรัสซึ่งใช้เสาเหล็ก H-beam SS400 เกรดคุณภาพของ SYSที่ได้หน้าตัดและความยาวเหล็กตรงตามสเปก ซึ่งสามารถติดตั้งเฉพาะโครงสร้างเหล็กได้เสร็จภายใน1 เดือนการออกแบบที่ตอบโจทย์โดดเด่นด้วยวัสดุอลูมิเนียม อาคารถูกดีไซน์เป็นหลังคาเพิงแหงน(Lean-to Roof) ที่มีความยาวถึง 100 เมตร จึงต้องใช้การเสริมโครงสร้างค้ำยันด้วย Bracing กากบาทในทุก ๆ ระยะห่างระหว่างเสาเพื่อป้องกันการบิดตัวของโครงสร้างซึ่งก็ทำให้ได้เส้นสายที่สวยงามของเหล็กที่ทำให้อาคารดูโดดเด่น แปลกตากว่าอาคารโกดังแบบเก่าๆจุดเด่นอีกอย่าง คือการประยุกต์ใช้แผ่นอลูมิเนียมของนิคเคสยามที่มีความหนากว่าแผ่นเมทัลชีทปกติมาทำการรีดลอนเองเพื่อใช้เป็นทั้งวัสดุมุงหลังคาและวัสดุผนังทั้งหมดของอาคาร นอกจากนี้ตัวอาคารยังมีCanopy ด้านหน้าที่ยื่นยาวออกไปถึง 8 เมตรและด้านข้างมีการออกแบบเปิดให้ลมไหลผ่านเพื่อหมุนเวียนอากาศภายในได้อย่างทั่วถึง ซึ่งอาคารนี้ถูกออกแบบติดตั้งในระบบ Bolt Connection เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเป็นอาคารกึ่งชั่วคราวที่สามารถถอดเคลื่อนย้ายได้โดยใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างทั้งโครงการเพียง 3 เดือน โดยใช้ระยะเวลาการติดตั้งงานโครงสร้างเหล็กทั้งหมดรวมทุกกระบวนการเหล็กเพียง1 เดือนเท่านั้นตรวจรับงานอย่างมั่นใจด้วยAs BuiltDrawing แบบDigital Data ด้วยความสามารถของ BIM Process เมื่อดีไซน์เรียบร้อยสามารถที่จะนำไปทำงานต่อได้ทันทีเพื่อออกแบบดีเทลและถอดปริมาณเหล็ก จึงได้ผลลัพธ์ของปริมาณงานต่าง ๆ ที่แม่นยำ นำส่งโรงงานให้ไปผลิตชิ้นงานได้ง่ายและสามารถนำโมเดลตัวนี้มาช่วยสร้างแผนงานเพื่อบริหารงานก่อสร้างต่อได้อีกด้วย เทคโนโลยีBIM Process จึงเป็นส่วนสำคัญที่มาช่วยบริหารเวลาให้การก่อสร้างเสร็จได้ภายใน3 เดือน และสามารถคุมงบประมาณได้ตามแผนที่วางไว้ จึงสร้างทั้งกำไรและความคุ้มค่าสูงสุดเมื่อการก่อสร้างเสร็จสิ้นยังสามารถเก็บข้อมูลสุดท้ายด้วยพอยต์คลาวด์ ( Point Cloud ) และส่ง As Built Drawing แบบ Digital Data เพื่อให้เจ้าของสามารถตรวจรับงานได้อย่างละเอียด ผู้ออกแบบสามารถตอบทุกคำถามได้อย่างครบถ้วนเพราะสามารถตรวจสอบวัดระยะชิ้นงานได้ทั้งหมดตามจริง ด้วยโมเดล 3D ที่ผู้ออกแบบจัดทำขึ้นมาให้เป็นทรัพย์สินแบบดิจิตอล ขอขอบคุณวิศวกรออกแบบโครงสร้าง คุณปณิธิ พรหมสาขา ณ สกลนคร จาก บริษัท ดีเซนนอ จำกัด คุณธัชชาย ธนพิศุทธิ์วงศ์

Tag :