Customized Length & SM520 ตอบโจทย์การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามหลัก Circular Economy

เทรนด์การก่อสร้างในปัจจุบันนี้ เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น หลายอุตสาหกรรมจึงหันมาสนใจแนวคิดการขับเคลื่อนธุรกิจแบบ Circular Economy ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการนำวัตถุดิบกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ เพื่อลดการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติอย่างไร้คุณค่า ซึ่งเหล็กคือหนึ่งในวัสดุรักษ์โลก ที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ 100% นอกจากนี้วัสดุเหล็กยังมีความคุ้มค่ามากกว่า สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน


ก่อสร้างแบบรักษ์โลกด้วยโครงสร้างเหล็กวัสดุเหล็ก

นอกจากจะตอบโจทย์แนวคิด Circular Economy ตามหลัก 3R คือ Reduce Reuse และ Recycle ที่สามารถนำเหล็กกลับมาใช้ซ้ำ จำหน่ายต่อ และ Recycle ได้เกือบ 100% และสามารถ วัดได้ด้วย “ค่าการหมุนเวียนวัสดุ (Material Circularity Indicator; MCI)” คือวัตถุดิบทั้งหมดที่ใช้จะต้องมาจากส่วนประกอบที่นำกลับมาใช้ใหม่หรือวัสดุรีไซเคิล โดยมีประสิทธิภาพการรีไซเคิล 100% ไม่มีของเสียเกิดขึ้นระหว่างการผลิต และเมื่อผลิตภัณฑ์หมดอายุจะต้องนำกลับมาใช้ซ้ำหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยไม่สูญเสีย (Zero Waste) ผลิตภัณฑ์เหล็กจึงเป็นไปตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่มีการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ มีรอบการใช้งาน (Life cycle) ที่ยาวนานกว่าโครงสร้างคอนกรีต และมีส่วนในการแก้ไขปัญหาโลกร้อน เนื่องจากปริมาณก๊าซ CO2 ที่ถูกปล่อยมาจากขบวนการผลิต การขนส่งและการก่อสร้าง มีปริมาณน้อยกว่าในโครงสร้างคอนกรีตถึง 24%

อ้างอิงข้อมูล: http://www.ebuild.co.th/article.php?g_id=6&article_id=206


CUSTOMIZED LENGTH ตัวช่วยลดเศษเหล็กเหลือทิ้ง

การสั่งผลิตเหล็ก H-BEAM ให้ได้ sizing ตามต้องการ ด้วยการสั่งเหล็กความยาวพิเศษจาก SYS ที่ผลิตความยาวตามการใช้งานจริง จะมาช่วยลดปริมาณเศษเหล็กเหลือทิ้งในโครงการ ซึ่งมาช่วยลดขั้นตอนการทำงาน ลดค่าใช้จ่ายในการตัดต่อวัสดุ และไม่ต้องเสียเวลาในการขนย้ายเศษเหล็กไปทิ้งทำลายอีกด้วย ดังนั้นการสั่งเหล็กแบบ CUSTOMIZED LENGTH จะเป็นตัวช่วยให้คุณวางแผนการจัดการวัสดุเหล็กอย่างรอบคอบ ทำให้โครงการของคุณคุ้มค่าและประหยัดทรัพยากรมากยิ่งขึ้น


SM520 ลดปริมาณเหล็กทั้งโครงการ  

นอกจากนี้การเลือกใช้เหล็ก H-BEAM ที่มีความแข็งแรงพิเศษอย่างเหล็ก SM520 ซึ่งเกิดจากการถูกพัฒนาคุณสมบัติให้สามารถรับแรงดึงได้สูงขึ้น (High Strength Steel) มีความแข็งแรงพิเศษ จึงสามารถออกแบบโครงสร้างให้มีขนาดเล็กลง และลดน้ำหนักโดยรวมได้สูงสุดถึง 20% อีกทั้งยังช่วยให้โครงการประหยัดต้นทุนการก่อสร้างได้มากขึ้น เพราะช่วยลดขนาดของฐานรากและเสาเข็ม ลดค่าแรงงาน ประหยัดเวลาติดตั้ง และลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง การเลือกเหล็ก SM520 จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งเพื่อเพิ่มความคุ้มค่าของโครงการได้มากขึ้นในทุกมิติ และยังช่วยด้านลดมลพิษที่ปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมลงด้วย