คลายล็อกดาวน์อย่างปลอดภัย ด้วยวิถีการทำงานที่ดีต่อสุขภาวะ

แนวทางการก่อสร้างหลังจากนี้ มีแนวโน้มจะปรับเปลี่ยนไปในทิศทางใด? ที่จะมาช่วยลดผลกระทบต่อการทำงานและตอบโจทย์ความปลอดภัยต่อสุขภาพเพื่อให้ธุรกิจการก่อสร้างยังคงดำเนินต่อไปได้ นอกเหนือจากการปฏิบัติตนตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัดในสภาวะวิกฤตแบบนี้


เปลี่ยนรูปแบบการทำงานเป็น Fabricated Steel หรือ Modular system

เพราะ Fabricated Steel หรือ Modular system เป็นการทำงานเหล็กในพื้นที่โรงงานที่มีการควบคุมมาตรการสุขภาพอย่างเข้มงวด ได้แก่ การดูแลให้พนักงานต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาปฏิบัติงาน ล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิทุกครั้ง และมีการจัดพื้นที่ทำงานที่เว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม รวมทั้งการดูแลทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในบริเวณพื้นที่ทำงาน จึงสามารถมั่นใจได้ว่าช่วยลดโอกาสการแพร่ระบาดของ COVID-19 และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในพื้นที่ทำงานได้มากกว่าการทำงานหน้าไซต์ที่อาจควบคุมได้ไม่ทั่วถึง อีกทั้งการขึ้นโครงสร้างงานเหล็กให้เสร็จในโรงงานก่อนที่จะนำไปติดตั้งที่หน้างาน ยังช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยากและลดจำนวนคนงานที่หน้าไซต์ได้มากขึ้น จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยที่หน้างานได้มากขึ้นอีกด้วย


ลดโอกาสงานสะดุด ทำงานต่อเนื่องได้แบบ 4.0 ด้วยเครื่องจักร (Automatic Machine)

ปัจจุบันนี้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เป็นทางเลือกให้แก่โครงการก่อสร้าง อย่างการใช้เครื่องจักร (Automatic Machine) ที่แค่มีทีมงาน 1-2 คนก็สามารถทำงานได้ ทั้งในการก่อสร้างเหล็กระบบ Bolted Connection ได้แก่ งานเจาะรู (Drilling) ,งานมาร์คกิ้ง (Marking) และงานตัด (Cutting) และการก่อสร้างเหล็กระบบ Welded Connection ด้วยเครื่องจักรพร้อมหัวเชื่อมอัตโนมัติ (Automatic Welding Machine) ที่สามารถเชื่อมเหล็กได้โดยเพียงใช้คนควบคุมเพียงไม่กี่คน ทำให้ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัส Covid-19 ลงได้  รวมถึงสามารถลดระยะเวลาการทำงาน และเพิ่มคุณภาพการทำงานเหล็กได้อย่างมีมาตรฐานอีกด้วย เทคโนโลยีเหล่านี้จึงกำลังจะเข้ามาเป็นวิถีการทำงานแบบใหม่ที่ช่วยลดโอกาสแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้เป็นอย่างดี และช่วยให้หลายโครงการที่ก่อสร้างอยู่ในสภาวะวิกฤตแบบนี้ยังคงดำเนินต่อไปได้


เลือกก่อสร้างด้วยโครงสร้างเหล็กที่ไซต์งาน ลดทั้งระยะเวลาและมลภาวะ

การเลือกใช้โครงสร้างเหล็กควบคู่กับการวางแผนเข้าทำงานหน้าไซต์อย่างเป็นระบบ จะช่วยให้งานจบไว และลดจำนวนคนเข้าทำงานในแต่ละส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการจัดเตรียมชิ้นงานสำเร็จในโรงงาน (Prefabrication) และดำเนินการในส่วนของฐานรากที่หน้างานไปพร้อม ๆ กัน เมื่อจบงานส่วนแรกช่างจะสามารถเริ่มในส่วนงานเหล็กได้ทันที พร้อมประกอบ ขึ้นโครงสร้าง และจบงานได้รวดเร็ว ช่วยลดโอกาสการแพร่ระบาดและติดเชื้อภายในไซต์ก่อสร้าง และที่สำคัญระบบโครงสร้างเหล็กยังช่วยลดมลภาวะทางอากาศ ได้แก่ ฝุ่นละอองและมลพิษ ลดมลภาวะทางเสียง จึงลดการเกิดผลกระทบต่อเพื่อนบ้านรอบข้างได้มีประสิทธิภาพมากกว่าอีกด้วย