เพราะหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการทำงานระหว่างกระบวนการก่อสร้างคือเรื่องของสถานการณ์ทั้ง ณ ปัจจุบันและอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ความผันผวนของราคาวัสดุ ไปจนถึงสถานการณ์โรคระบาดในไซต์งานที่ส่งผลโดยตรงต่อการทำงานให้เกิดความติดขัดล่าช้า หรือซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือต้องหยุดกระบวนการทำงานทั้งหมดเพื่อควบคุมสถานการณ์ให้คงที่
การเตรียมแผนงานเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวหรือสิ่งที่เราไม่คาดคิดให้เกิดความรัดกุมในทุกๆ ขั้นตอนตั้งแต่แรกเริ่ม จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับ โครงการต่างๆ โดยเฉพาะขั้นตอนของการออกแบบโครงสร้าง เพราะหากเราวางแผนเลือกใช้วัสดุโครงสร้างที่สามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ได้ค่อนข้างดี อย่างการเลือกใช้โครงสร้างเหล็ก H-BEAM ที่สามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว รับมือกับเรื่องของระยะเวลา ลดความเสี่ยงที่ต้องเจอกับฝนฟ้าอากาศไม่เป็นใจ หรือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ไปจนถึงเรื่องของราคาที่ มีความผันผวนค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับเหล็กประเภทอื่น ก็นับว่าเป็นอีกหนทางในการลดความเสี่ยงต่อปัญหาต่างๆ ที่หน้างาน อีกทั้งยังคุ้มค่าคุ้มราคาและเอื้อต่อกิจการรับเหมาได้อีกในหลายๆ แง่มุมดัง 5 เหตุผลต่อไปนี้
เลือกใช้รุ่นที่ทำสีจากโรงงาน เพื่อลดขั้นตอนการทำงาน
เพราะเหล็ก H-BEAM หรือเหล็กรูปพรรณรีดร้อนเป็นเหล็กที่สามารถรับน้ำหนักได้มาก มีความยืดหยุ่นสูง และยังเป็นการทำงานแบบระบบแห้ง (Dry Process) ซึ่งช่วยลดระยะเวลาจากการก่ออิฐถือปูนได้ดี อีกทั้งยังสามารถเลือกใช้รุ่นที่ทำสีมาจากโรงงานได้ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าความคุ้มค่าที่หนึ่ง จึงเป็นความสะดวกสบายในการลดขั้นตอนการทำงานโดยเมื่อเหล็กมาถึงไซต์ก็สามารถใช้งานติดตั้งได้เลยทันทีไม่ต้องทำสีที่หน้างานหรือรอให้สีแห้ง ซึ่งส่งผลให้เกิดความคุ้มที่สองในแง่ของค่าใช้จ่ายที่สามารถช่วยลดต้นทุนของค่าแรงคนงานและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในงานก่อสร้างได้ในเวลาเดียวกัน
ติดตั้งได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาผูกเหล็ก
สำหรับมุมมองของผู้รับเหมาแล้ว นอกจากความแข็งแรงของโครงสร้าง เรื่องระยะเวลาก็เป็นสิ่งสำคัญ การเลือกใช้วัสดุที่ตอบโจทย์ต่อการทำงานได้อย่างรวดเร็วอย่างเหล็ก H-BEAM ที่สามารถติดตั้งได้สะดวกง่ายดาย โดยไม่ต้องเสียเวลาผูกเหล็กเพื่อเทคอนกรีตให้เกิดความซ้ำซ้อนหลายขั้นตอน ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ช่วยให้เกิดความคุ้มค่าได้ทั้งต่อผู้รับเหมา เจ้าของโครงการ และแรงงานด้วยเช่นกัน
ลดปริมาณเศษเหล็กเหลือทิ้ง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำลาย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่องานก่อสร้างสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีแล้ว ภาระอีกส่วนหนึ่งที่ผู้รับเหมาจะต้องแบกรับนั่นคือเศษวัสดุก่อสร้างเหลือทิ้งที่ต้องขนย้ายไปทำลาย ซึ่งต้องเสียทั้งเวลาและหลายครั้งอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายร่วมด้วย การเลือกใช้เหล็ก H-BEAM รูปแบบ CUSTOMIZED LENGHT ที่สั่งผลิตขนาดความยาวได้ตามต้องการเพื่อลดการตัด หรือมีเศษเหล็กเหลือทิ้งก็เป็นอีกทางในการแก้ปัญหา และลดขั้นตอนในการทำลายวัสดุก่อสร้างหน้าไซต์งานหลังจากจบงานได้เป็นอย่างดี
รื้อถอนโยกย้ายและนำกลับมาติดตั้งได้ใหม่ ตามแนวทาง Circular Economy
ความคุ้มค่าในแง่ของการรื้อถอนไปติดตั้งใหม่ อาจกล่าวได้ว่าเป็นความคุ้มที่เจ้าของโครงการจะได้รับจากการลดค่าใช้จ่ายใน กรณีต้องการย้ายโครงการไปทำการก่อสร้างในสถานที่ใหม่ เรียกได้ว่าการลงทุนในครั้งเดียวกับวัสดุเหล็ก H-BEAM เป็นการใช้วัสดุให้เกิดความคุ้มค่าอย่างยั่งยืน ด้วยการรื้อถอนมาแล้วนำไปติดตั้งในที่ใหม่ได้ ขณะเดียวกันความคุ้มของผู้รับเหมาก็เป็นแง่ของต้นทุนค่าแรง ระยะเวลา และความสะดวกสบายในการทำงาน เพราะไม่ต้องใช้คนงานจำนวนมากในการรื้อถอนหรือติดตั้ง
ขายต่อได้ราคา ตอบแทนความคุ้มค่าให้กับธุรกิจ
วัสดุโครงสร้างเหล็กนั้นเมื่อมีการรื้อถอนที่เจ้าของโครงการไม่ต้องการใช้งานแล้ว แต่ยังมีมูลค่าในตัวเอง ที่สามารถนำไปขายทำกำไรหรือการคืนทุนให้แก่ธุรกิจได้ ซึ่งเกิดจากการวางแผนเลือกใช้วัสดุโครงสร้างเหล็ก H-BEAMS ตั้งแต่แรก เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดจนขั้นตอนสุดท้ายหรือการทำลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ