อัพเดทคุมเข้มแคมป์ก่อสร้าง พร้อมวางแผนรับมือเมื่อไซต์งานกลับมาเปิด

หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกล่าสุดในประเทศไทยได้ลากยาวและสร้างความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งข้อมูลจาก ศบค. ยังพบว่า คลัสเตอร์ผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่บางส่วนนั้นเป็นผู้ป่วยจาก ‘แคมป์คนงานก่อสร้าง’ การออกมาตรการปิดแคมป์คนงานในพื้นที่กรุงเทพฯ, ปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ยะลา, ปัตตานี, สงขลา และนราธิวาส เป็นเวลา 1 เดือนจากทางภาครัฐฯ เพื่อหวังใช้กลยุทธ์ Bubble and Seal ช่วยสะกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

ซึ่งแน่นอนว่าการคุมเข้มครั้งนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ไม่น้อย ก่อนทางภาครัฐฯ จะพิจารณาปรับลดมาตรการควบคุมและคลายล็อก 4 กิจการก่อสร้างเพื่อผ่อนปรนโครงการก่อสร้างบางประเภท โดยรายละเอียดมาตรการคลายล็อกจะมีอะไรบ้างและผู้รับเหมาควรวางแผนรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร บทความนี้มีคำตอบ


คลายล็อก 4 กิจการก่อสร้างบางประเภท

จากที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และหน่วยงานอื่นๆ ได้ออกมาเตือนว่าการปิดแคมป์ก่อสร้างเป็นเวลานานอาจส่งผลกระทบต่องานก่อสร้างบางประเภท การยื่นพิจารณาอนุโลมเพื่อให้งานก่อสร้างดังกล่าวได้ดำเนินการต่อ ขณะที่มาตรการควบคุมยังคงเข้มงวด โดยเน้นใช้แรงงานจำนวนน้อย ร่วมกับแนวทางในการทำงานระยะสั้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งด้านสาธารณสุข และด้านวิศวกรรม จึงได้มีการอัพเดทดังนี้

  1. โครงสร้างซึ่งหากหยุดก่อสร้างในทันทีหรือดำเนินการล่าช้า อาจก่อให้เกิดความเสียเชิงโครงสร้างจนยากต่อการแก้ไข หรือเกิดอันตรายแก่ประชาชนที่สัญจญไปมา เช่น โครงการก่อสร้างใต้ดินที่มีความลึก
  2. การก่อสร้างชั่วคราวซึ่งหยุดการก่อสร้างในทันทีหรือดำเนินการล่าช้า อาจก่อให้เกิดความเสียาหายอันตรายต่อชุมชนโดยรอบ เช่น นั่งร้านและแบบรอการเทปูน
  3. การก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยด้านการจราจร เช่น แผ่นเหล็กปิดงานก่อสร้างบนผิวจราจร และแบร์ริเออร์
  4. การก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 เช่น โรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาล สถานพยาบาล หรือสถานที่ก่อสร้างอื่นๆ ที่ใช้ประโยชน์เพื่อการควบคุมโรค

เตรียมแผนรับมือให้พร้อม ระหว่างรอไซต์งานเปิด

ทั้งนี้ แม้การคลายล็อก 4 กิจการก่อสร้างจะมีการผ่อนปรนมาตราการบ้างแล้วก็ตาม แต่ในภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างก็ยังคงน่าเป็นห่วงด้วยที่การทำงานจะต้องหยุดชะงักเป็นระยะเวลาร่วมเดือน แผนรับมือระหว่างการรอไซต์งานกลับมาเปิดอย่างเต็มรูปแบบจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถปฏิบัติได้ในทันที ภายใต้ข้อจำกัดของสถานการณ์ที่ต้องลดการรวมตัวของคนงานและเน้นการชดเชยเวลาที่สูญเสียไปให้ได้มากที่สุด

เช่น การเลือกใช้เหล็กเข้ามาช่วย Catch up งานให้เร็วขึ้น ได้ในหลายๆแนวทาง เช่น

  • โครงการที่เป็นโครงสร้างเหล็กอยู่แล้ว การเลือกใช้เหล็ก CUSTOMIZED LENGHT ที่สามารถสั่งผลิตขนาดความยาวได้ตามต้องการโดยไม่ต้องมีคนงานไปเชื่อมต่อหรือตัดเหล็กที่หน้าไซต์
  • โครงสร้างคอนกรีตทั่วไป การพิจารณาแบบก่อสร้างว่ามีส่วนไหนสามารถปรับ Modify เป็นโครงสร้างเหล็กเพื่อชดเชยเวลาที่เสียไประหว่างไซต์ถูกปิดได้บ้าง
  • การเลือกใช้บริการที่จะช่วยให้งานสามารถสะดวกรวดเร็วขึ้นได้ อย่างการทำโครงสร้างเหล็กเป็นระบบ Bolt & Nut จาก Steel Solution by SYS เพราะสามารถทำงาน Fab ควบคู่ไปได้

ซึ่ง 3 แนวทางนี้ล้วนแต่เป็นหนึ่งในทางออกที่ผู้รับเหมารายใหญ่และรายย่อยจะสามารถนำไปใช้วางแผนกับงานระหว่างรอไซต์กลับมาเปิดได้เป็นอย่างดี โดยสามารถตอบโจทย์ทั้งเรื่องของการลดจำนวนคนงานและระยะเวลาการก่อสร้างได้อย่างตรงจุด


ทางออกของกิจการก่อสร้างในอนาคตอันใกล้

สำหรับโครงการก่อสร้างที่อยู่ในช่วงพัฒนาแบบหรือมีแผนจะเริ่มก่อสร้างในไม่ช้านี้ อีกหนึ่งแนวทางในการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ทั้งยังเอื้อต่อแง่ของธุรกิจผู้รับเหมาและเจ้าของโครงการได้ในเวลาเดียวกัน คือการปรับใช้โครงสร้างเป็นรูปแบบ Modular System หรือโครงสร้างสำเร็จที่ประกอบมาจากโรงงานและพร้อมติดตั้งที่หน้างานได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น ช่วยลดจำนวนคน ลดผลกระทบต่อมลภาวะ และผลกระทบในแง่อื่นๆ อีกมากมาย

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ารูปแบบการก่อสร้างประเภทนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมในต่างประเทศไม่น้อย เพราะไม่เพียงแต่ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างครบวงจร แต่ยังนับเป็นอีกวิวัฒนาการทางการก่อสร้างที่วิศวกรและผู้รับเหมาทั่วโลกควรหันมาให้ความสนใจ ทั้งนี้แม้สถานการณ์โควิด-19 จะยังคงอยู่หรือหายไปแล้วก็ตาม การเตรียมแผนรับมือกับทุกสถานการณ์ การพิจารณาโครงสร้างที่สามารถตอบโจทย์รูปแบบงานได้ในหลายๆ แง่ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ไม่อาจมองข้ามได้ในยุคปัจจุบันนี้

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่

และรับชมโครงการเพิ่มเติมได้ที่วิดีโอด้านล่างนี้