Lesson learned จากบทเรียนโควิด 19 ระลอก 1 สู่ระลอก 2 ที่ผู้รับเหมาต้องเตรียมตั้งการ์ดรับมือให้ทัน

นับเป็นแรมปีแล้วก็ว่าได้ ที่เราทุกคนต่างต้องเผชิญและได้รับผลกระทบในทุกภาคส่วนจาก COVID-19 ที่ยังคงน่าเป็นห่วงและต้องติดตามสถานการณ์กันอย่างต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน ทว่าระหว่างการแพร่ระบาดในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นอุตสาหกรรมทั้งรายใหญ่และรายย่อย ก็อาจค้นพบทางหนีทีไล่และแนวทางการรับมือต่อสถานการณ์ครั้งนี้ได้อยู่บ้างในระดับหนึ่ง

ซึ่งบทเรียนจากวิกฤต COVID-19 ระลอกแรกนั้น ทำให้อุตสาหกรรมก่อสร้างได้พบและตระหนักถึงเรื่องของการขาดแคลนแรงงานและการหยุดชะงักของการจัดซื้อวัสดุจากต่างประเทศเป็นประเด็นสำคัญ เพราะทั้งสองประเด็นได้ส่งผลกระทบโดยตรงให้กระบวนการทำงานเกิดการล่าช้า หรือยิ่งไปกว่านั้นคือไม่สามารถดำเนินงานต่อได้ Lesson Learned หรือบทเรียนสำคัญที่ตอกย้ำให้วิศวกร ผู้รับเหมา หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง จะต้องเตรียมพร้อมตั้งการ์ดรับมือให้ทันกับสถานการณ์ระลอก 2 หรือสถานการณ์ในอนาคตที่ไม่อาจรู้ได้นั้น จึงยังคงเป็นประเด็นดังต่อไปนี้


บทเรียนที่ 1 หมดกังวลเรื่องขาดแคลนแรงงาน เมื่อหันมาใช้โครงสร้างเหล็ก 

เพราะเหล็กไม่ต้องผ่านกระบวนการผสม หล่อ หรือขึ้นรูปวัสดุที่หลายขั้นตอน หากแต่ขึ้นรูปเป็นโครงสร้างได้ในทันทีด้วยการเชื่อมประกอบ หรือ โบลท์-นัท ซึ่งแน่นอนว่าเป็นกระบวนการที่ใช้แรงงานน้อย ตอบโจทย์กับสถานการณ์ในปัจจุบันที่กำลังขาดแคลนแรงงานได้เป็นอย่างดี


บทเรียนที่ 2 รักษาระยะห่างได้ดี งานเสร็จเร็วกว่าด้วยการ Bolt and Nut

เมื่อเหล็กสามารถขึ้นโครงสร้างได้อย่างรวดเร็ว และกระบวนการโบล์ท-นัท คือหนึ่งในกระบวนการที่ช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่หน้างานได้ ด้วยการขึ้นโครงสร้างให้แล้วเสร็จเป็นบางส่วนจากโรงงาน ก่อนจะนำไปขึ้นเป็นโครงสร้างอาคารที่หน้างานอีกครั้ง ซึ่งเมื่อขั้นตอนการทำงานที่หน้างานลดลง แรงงานก็จะประสานงานกันน้อยลงตามไปด้วย การรักษาระยะห่างที่หน้างานจึงเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ


บทเรียนที่ 3 แม้สถานการณ์ไม่สู้ดี แต่งานยังเดินต่อได้หากสั่งสินค้าจากผู้ผลิตในประเทศ     

หลังจากสถานการณ์ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบไปในหลายประเทศทั่วโลก การขนส่งคมนาคมระหว่างประเทศจึงถูกหยุดชะงักไปตามๆ กัน ซึ่งส่งผลให้ฝ่ายผู้จัดซื้อได้รับผลกระทบต่อกระบวนการทำงานที่ต้องรอพรีออเดอร์สินค้าเป็นเวลานาน การสั่งสินค้าจากผู้ผลิตในประเทศจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อให้การทำงานสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง

สุดท้ายแล้วไม่ว่าระลอก 2 หรือสถานการณ์จะยังยืดเยื้อไปอีกเป็นปี สู่ระลอกอื่นๆ หากเราการ์ดไม่ตก และนำบทเรียนจากสถานการณ์ที่ผ่านมากลับมาขบคิดและปรับใช้เป็นข้อพิจารณาในการเลือกวัสดุสำหรับงานโครงสร้างให้เหมาะสม เชื่อว่าธุรกิจผู้รับเหมาและอุตสาหกรรมก่อสร้างทั้งรายใหญ่หรือรายย่อย จะต้องผ่านพ้นสถานการณ์ในครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน