ภาครัฐกับการใช้งานเหล็ก ที่เพิ่มขึ้น

ภาครัฐกับการใช้งานเหล็ก
ในแต่ละปีภาครัฐจะมีโครงการหลายอย่างออกมาเพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในประเทศในหลายด้าน รวมถึงด้านการก่อสร้าง เช่น ระบบถนน นิคมอุตสาหกรรม การขยายพื้นที่ใช้งานอย่างท่าเรือหรือสนามบิน ฯลฯ

ในปี 2567 ที่ผ่านมา การก่อสร้างและดำเนินโปรเจกต์มีแนวโน้มการเติบโตที่ลดลง ไม่เว้นแม้แต่ในภาคเอกชน สาเหตุหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้การลงทุนในโครงการก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชนชะลอลงตามไปด้วย ต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้หลายโครงการต้องชะลอการดำเนินงานหรือปรับแผนใหม่

แต่ในปี 2568 การก่อสร้างของทางภาครัฐมีแนวโน้มขยายตัวและเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งมีความแตกต่างจากปีก่อน ๆ โดยเน้นไปที่กระบวนการรักษ์โลกและเลือกใช้วัสดุมากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้รับเหมาในไทยที่จะปรับตัวให้ตอบโจทย์ของ ภาครัฐกับการใช้งานเหล็ก ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงสอดคล้องกับเทรนด์โลกในตอนนี้

 ภาครัฐกับการใช้งานเหล็ก นโยบายที่เร่งพัฒนา Hub ทั่วประเทศ

นโยบายที่เร่งพัฒนา Hub ทั่วประเทศ

หากย้อนดูภาพรวมในปี 2567 ที่ผ่านมา จะพบว่าการก่อสร้างของภาครัฐล่าช้าในช่วงต้นปีเนื่องจากการเลือกตั้ง ก่อนที่ช่วยครึ่งปีหลังตลอดจนถึงปี 2568 นี้ จะกลับมาเติบโตมากขึ้นประมาณ 3% YoY โดยภาครัฐมีการเปิดเมกะโปรเจกต์หลายโครงการ

ทั้งขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟทางคู่ เฟส 2 ขอนแก่น – หนองคาย มอเตอร์เวย์วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ อาคารผู้โดยสารส่วนต่อขยายสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ไปจนถึงการสร้าง Hub ใหม่ ๆ ในต่างจังหวัดมากขึ้น เช่น ขยายสนามบินเชียงใหม่ สนามบินอู่ตะเภา รวมถึงขยายนิคมอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่ EEC ของประเทศให้รองรับตลาดได้มากขึ้น

 

ภาครัฐกับการใช้งานเหล็ก ก่อสร้างอิงตามเทรนด์รักษ์โลกมากขึ้น  https://www.shutterstock.com/th/image-photo/large-building-under-construction-2494667483

ก่อสร้างอิงตามเทรนด์รักษ์โลกมากขึ้น

แม้จะเป็นการก่อสร้างของภาครัฐที่มีระเบียบแบบแผนและมีการวาง Road Map มาอย่างละเอียดเป็นขั้นตอนแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่มีความน่าสนใจในปีนี้ คือภาครัฐมีการปรับใช้นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังมากขึ้น เพื่อควบคุมให้อาคารหรือสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นใหม่ในประเทศเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องไปกับเทรนด์โลกและผลักดันให้การก่อสร้างในไทยต่อจากนี้เข้าสู่ Green Construction อย่างเป็นรูปเป็นร่าง

ซึ่งก่อนหน้านี้ภาครัฐมีการออกนโยบายสนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด เช่น นโยบายเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนแระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2065 การประเมิน GHG ที่จะมีการกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดการก่อสร้างอย่างเข้มงวด หรือเกณฑ์ในการพยายามปรับปรุงอาคารที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานขึ้นจากเดิม ตลอดจนมีการนำเกณฑ์ประเมิมอาคารเขียวของไทยเข้ามาควบคุมการออกแบบและก่อสร้างอาคารรัฐหลังใหม่มากขึ้นด้วย

ส่งผลให้การประมูลหรือคัดเลือกกลุ่มผู้รับผิดชอบงาน เช่น ผู้รับเหมา ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้านมากขึ้น โดยต้องคำนึงถึงทั้งการออกแบบ วัสดุ รูปแบบการก่อสร้างที่ใช้ และการจัดการการก่อสร้างที่ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม

เมื่อการแข่งขันสูงขึ้น การประมูลและคัดเลือกผู้รับเหมาต้องเข้มข้นกว่าเดิม ไม่ใช่แค่ราคาหรือคุณภาพ แต่ต้องใส่ใจสิ่งแวดล้อมรอบด้าน ตั้งแต่แนวคิดการทำงาน วัสดุที่ใช้ วิธีการก่อสร้าง ไปจนถึงการจัดการหน้างาน ทุกขั้นตอนต้องเป็นมิตรต่อโลกอย่างเป็นรูปธรรม เพราะอนาคตของการก่อสร้าง ไม่ได้วัดแค่ความยิ่งใหญ่ แต่ต้องยั่งยืนไปพร้อมกัน

  ภาครัฐกับการใช้งานเหล็ก ตอบโจทย์รูปแบบการก่อสร้างได้ครบและหลากหลาย

https://www.shutterstock.com/image-photo/passenger-airplane-on-maintenance-engine-fuselage-1043665888

เหล็ก ตอบโจทย์รูปแบบการก่อสร้างได้ครบและหลากหลาย

เมื่อการก่อสร้างขยายตัว และนโยบายสิ่งแวดล้อมถูกยกระดับให้เข้มข้นขึ้น เหล็กจึงกลายเป็นตัวแปรสำคัญของงานก่อสร้างที่ตอบโจทย์ทั้งความแข็งแกร่งและความยั่งยืน

เพราะเหล็กเป็นวัสดุที่สามารถก่อสร้างได้อย่างลงตัวและหลากหลาย สอดคล้องกับลักษณะโครงการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำหรับใช้สอย โครงข่ายขนส่งสาธารณะ เช่น สนามบิน สะพานรถยนต์ สะพานคนข้าม โครงสร้างริมน้ำ เช่น ท่าเรือ ตลอดจนเสาส่งสัญญาณ และเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงที่ถูกติดตั้งทั่วประเทศ 

 ภาครัฐกับการใช้งานเหล็ก เหล็ก SYS เหล็กไทยที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงข่ายสาธารณะทั่วประเทศ

เหล็ก SYS เหล็กไทยที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงข่ายสาธารณะทั่วประเทศ

หากพูดถึงเหล็กโครงสร้างที่มีคุณภาพและมีคุณสมบัติตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบถ้วน เหล็กโครงสร้าง H-Beam จาก SYS ผู้ผลิตเหล็กภายในประเทศ ถือเป็นวัสดุก่อสร้าง Made in Thailand 100% ที่ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในหลาย ๆ โครงการของภาครัฐเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างอาคาร โครงข่าย Infrastructure ต่าง ๆ ในประเทศ

เหล็ก SYS ไม่ใช่แค่มอบความแข็งแรงให้โครงการรัฐ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานของประชาคนไทยเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมและผลักดันให้การก่อสร้างของภาครัฐเดินหน้าเข้าใกล้เป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่วางเอาไว้ ด้วยการเป็นวัสดุที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล มีกระบวนการผลิตที่ถูกควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด และเป็นวัสดุที่สามารถหมุนเวียนได้ตลอดวัฏจักร การมีเหล็ก SYS เป็นส่วนหนึ่งในการก่อสร้างและพัฒนาโครงข่ายทั่วประเทศจึงช่วยสร้างความแตกต่างให้กับโครงการรัฐในวันนี้และอนาคตได้อย่างชัดเจน