เมื่อความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ต่อยอดเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจในงานก่อสร้าง

โลกยุคนี้ถ้าจะไม่ปรับตัวเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานร่วมด้วยก็คงจะไม่ได้ เพราะเทคโนโลยีเป็นเหมือนเครื่องมือทุ่นแรงชิ้นหนึ่ง ที่ช่วยให้งานเสร็จได้เร็วขึ้น ได้ปริมาณงานที่มากขึ้น ในขณะที่คุณภาพก็ถูกควบคุมให้เสถียรเท่ากันมากขึ้นด้วย วงการก่อสร้างเองก็หยิบเอาเทคโนโลยีทันสมัยหลาย ๆ รูปแบบเข้ามาใช้งานในขั้นตอนต่าง ๆ เช่นกัน ตั้งแต่การนำหุ่นยนต์เข้ามาควบคุมการผลิต ให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีมาตรฐานเท่ากันทั้งหมด ในขั้นตอนดำเนินการก่อสร้าง ที่เอา 3D Printing มาก่อสร้างแทนการใช้แรงงาน ซึ่งส่งผลดีในหลาย ๆ ด้าน เป็นต้น

การนำเทคโนโลยีมาใช้ต้องเลือกให้สอดคล้องกับวัสดุและวิธีการก่อสร้างด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยทุ่นแรง ลดระยะเวลาและลดการใช้แรงงานได้จริง และหากจะพูดถึงวัสดุที่ตอบโจทย์ทั้งเทรนด์ก่อสร้างและเทรนด์เทคโนโลยีในอนาคต ก็คงหนีไม่พ้นโครงสร้างเหล็กจาก SYS เพราะมีการนำเทคโนโลยี ระบบคอมพิวเตอร์ หุ่นยนต์และเครื่องจักรที่ได้มาตรฐานเข้ามาช่วยควบคุมในทุกขั้นตอน ทำให้ได้งานที่มีคุณภาพมากขึ้น ลดข้อผิดพลาดต่าง ๆ ลงได้ ทั้งยังพร้อมตอบรับเทรนด์การก่อสร้างในอนาคตที่เทคโนโลยีจะถูกใช้งานมากขึ้นได้ครอบคลุมด้วย

 

เทคโนโลยีหุ่นยนต์ควบคุมการผลิต

การผลิตเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นขั้นตอนที่จะกำหนดคุณสมบัติและคุณภาพของวัสดุว่าเหมาะสมสำหรับการใช้งานมากน้อยแค่ไหน และถ้าเทียบกันระหว่างการผลิตที่ใช้คนงานไปคนคอยควบคุมกับการผลิตที่ใช้หุ่นยนต์คอยควบคุม ผู้ใช้งานก็ต้องมีความมั่นใจกับการผลิตที่ใช้หุ่นยนต์ควบคุมมากกว่า เพราะมั่นใจได้ว่าปริมาณ เกณฑ์ตัวเลขต่าง ๆ จะถูกเซทมาอย่างแม่นยำแล้ว ทำให้วัสดุก่อสร้างที่ได้มีมาตรฐานที่ดีและเท่าเทียมกันทั้งหมด แถมยังช่วยลดต้นทุนในการผลิตและราคาค่าวัสดุลงได้ด้วย

อย่าง SYS เองก็มีการใช้หุ่นยนต์เข้ามาช่วยควบคุมการผลิตและการแปรรูปเหล็กเช่นกัน โดยมีการใช้หุ่นยนต์เข้ามาเพื่อตรวจวัดและควบคุมค่าสารประกอบในเนื้อเหล็กระหว่างทำการหลอม นอกจากนี้ยังมีหุ่นยนต์หรือเครื่องจักรในการแปรรูปเหล็ก เช่น ตัด เจาะ ทำสี ทำให้ผู้ใช้งานได้เหล็กที่แข็งแรง ถูกต้องและแม่นยำตามแบบไปใช้งาน

 

(ที่มาภาพ : https://www.dw.com/en/despite-promise-3d-printed-buildings-still-face-hurdles/a-65776745 )

3D Printing กับการก่อสร้างที่เร็วและได้มาตรฐานขึ้น

รูปแบบการก่อสร้างด้วย 3D Printing เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น จุดเด่นก็คือการก่อสร้างที่ใช้เวลาน้อยลง ใช้คนงานน้อยลง งานมีมาตรฐานและทำได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น ในตอนนี้นำ 3D Printing ไปใช้งานก็จะเป็นการก่อสร้างด้วยปูนสำเร็จและการก่อสร้างด้วยดินธรรมชาติ แต่ในอนาคตก็มีความเป็นไปได้ว่าจะสามารถใช้งานกับโครงสร้างเหล็กได้ด้วย ซึ่งถ้าเป็นจริง จะช่วยให้การก่อสร้างด้วยโครงสร้างเหล็กที่เร็วอยู่แล้ว สามารถทำได้เร็วและสะดวกมากขึ้นได้ ช่วยลดการขนส่งเพราะสามารถปริ้นท์โครงสร้างที่หน้างานได้เลย 

 

Adaptable Structure โครงสร้างยืดหยุ่น รองรับการใช้งานได้หลากหลายกว่าเดิม

การก่อสร้างในอนาคตจะต้องเป็นการก่อสร้างที่ยืดหยุ่น สามารถปรับประยุกต์ได้กับทุกการใช้งาน เช่น สามารถต่อเติมได้ง่าย ปรับแต่งพื้นที่ให้เข้ากับการใช้งานใหม่ได้ หรือสามารถย้ายจุดติดตั้งรื้อถอนได้ ซึ่งจะไปสอดคล้องกับการก่อสร้างแบบ Modular System และ Circular Economy ด้วย 

การจะทำให้อาคารมีความยืดหยุ่น รองรับน้ำหนักของการใช้งานที่หลากหลาย สอดคล้องกับ Modular System และ Circular Economy จะต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการคำนวณขนาด ระยะ รวมไปถึงจำนวนวัสดุอย่างแม่นยำ ถ้าเราสามารถทำได้และการก่อสร้างปรับเปลี่ยนไปในแนวทางนี้ได้มากขึ้น ก็จะช่วยให้อาคารถูกใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดการสร้างขยะเหลือทิ้งลง ลดการก่อสร้างอาคารใหม่โดยไม่จำเป็นลงได้

โครงสร้างเหล็กจาก SYS เองก็เป็นโครงสร้างยืดหยุ่นที่สามารถพลิกแพลงการใช้งานได้หลากหลาย เพราะชิ้นส่วนเหล็กมีความแข็งแรงเท่ากันตลอดทั้งท่อน จึงต่อเติมหรือปรับการใช้งานจากแบบหนึ่งเป็นอีกแบบหนึ่งได้ นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบให้อยู่ในระบบ Modular System ผ่านการคำนวณด้วยระบบคอมพิวเตอร์ได้ด้วย เหล็กโครงสร้างจาก SYS จึงเป็นหนึ่งในวัสดุก่อสร้างที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่และเป็นโครงสร้างที่เหมาะกับการใช้งานในอนาคตอันใกล้นี้เป็นที่สุด