การก่อสร้างอาคารให้ออกมาตรงใจและตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุด จุดเริ่มต้นเลยคือต้องผ่านขั้นตอนการออกแบบที่ดีมากก่อน ซึ่งขั้นตอนการออกแบบนี้เป็นขั้นตอนที่ไม่ได้จัดการเฉพาะออกแบบรูปร่างหน้าตาอาคารเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงการลงพื้นที่ สำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับบริบทที่ตั้งโครงการทั้งหมด เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการเริ่มต้นออกแบบอาคารด้วย ซึ่งรายละเอียดและข้อมูลของแต่ละโครงการก็แตกต่างกันไป นอกจากจะขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของโครงการแล้ว ยังขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศ ตลอดจนลักษณะชั้นดินด้วย ดังนั้นก่อนเริ่มต้นออกแบบ นักออกแบบจึงควรรู้ข้อมูลและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ให้รอบด้าน เพื่อให้ขั้นตอนการออกแบบสามารถทำได้อย่างราบรื่นและออกแบบอาคารได้ตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุด
ข้อที่ 1 : สรุปความต้องการของเจ้าของโครงการให้ถูกต้อง
ข้อแรกคือการพูดคุยและสรุปข้อมูลความต้องการของเจ้าของโครงการออกมา โดยสอบถามถึงความต้องการที่เจ้าของโครงการอยากได้ ดีไซน์ที่ชอบ งบประมาณที่มี อยากให้พื้นที่ใช้สอยเป็นแบบไหน ไปจนถึงปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่ที่เจ้าของโครงการอยากให้แก้ไข เพื่อที่จะได้นำข้อมูลเหล่านี้มาสรุปรวมออกมาเป็นงานออกแบบ ถ้าหากเราวิเคราะห์และพูดคุยกับเจ้าของโครงการอย่างละเอียด จะช่วยให้งานออกแบบนั้นตรงใจของเจ้าของโครงการได้มากขึ้นได้
ข้อที่ 2 : ต้องสำรวจพื้นที่ให้ละเอียดรอบด้าน
ข้อต่อมาที่ควรรู้ก่อนเริ่มก่อสร้างอาคารเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก นั่นคือ ต้องลงสำรวจพื้นที่ให้ละเอียด เพื่อที่เราจะได้รู้ถึงสภาพหน้างานจริงและบริบทรอบข้าง ซึ่งขั้นตอนนี้จะช่วยให้เราเห็นถึงลักษณะ ปัญหา จุดเด่นและจุดด้อยของที่ตั้งได้โดยข้อมูลที่ลงสำรวจพื้นที่ ควรมีการสำรวจความแข็งแรงของชั้นดิน สภาพอากาศ สภาพภูมิประเทศ เส้นทางการเข้าออก รวมไปถึงพื้นที่ข้างเคียงให้ละเอียด เพื่อให้การออกแบบอาคารเหมาะกับพื้นที่ได้มากขึ้น
นอกจากนี้ในบางพื้นที่ เช่น ตามแนวรอยเลื่อน บนเนินเขาลาดชัน หรือในพื้นที่ดินอ่อนตัว จะต้องมีการตรวจสอบพื้นที่ร่วมกับการตรวจสอบข้อกำหนดและกฎหมายในการออกแบบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย เพื่อให้เราสามารถออกแบบอาคารนั้นได้แข็งแรงและใช้งานได้ปลอดภัยในพื้นที่
ข้อที่ 3 : เลือกรูปแบบการก่อสร้างและวัสดุที่เหมาะกับหน้างาน
เมื่อได้ความต้องการจากเจ้าของโครงการ และได้ข้อมูลจากการลงสำรวจพื้นที่มาครบถ้วนแล้ว ในการออกแบบนอกจากจะต้องนำข้อมูลทั้ง 2 ส่วนมาวิเคราะห์ร่วมกันและออกแบบมาเป็นอาคารที่แข็งแรงสวยงามแล้ว เราจะต้องเลือกรูปแบบการก่อสร้างและวัสดุที่เหมาะกับเหมาะพื้นที่ด้วย เช่น การก่อสร้างแบบคอนกรีตเสริมเหล็กหล่อในที่ คอนกรีตแบบสำเร็จรูป โครงสร้างเหล็กแบบเชื่อม หรือโครงสร้างเหล็กแบบขันประกอบ (Bolted Connection) เพื่อให้การขนส่งวัสดุและการก่อสร้างที่หน้างานสามารถทำได้ไม่ติดขัด
และวัสดุที่เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น เหล็ก ไม้ หรือคอนกรีต ต้องเหมาะกับทั้งงานออกแบบและพื้นที่ก่อสร้างด้วย โดยการเลือกวัสดุก่อสร้างที่เหมาะกับการใช้งาน ควรเลือกจากความสะดวกในการขนส่งติดตั้ง ความสามารถในการปรับใช้ให้เป็นไปตามแบบก่อสร้าง ตลอดจนความแข็งแรงทนทานต่อลักษณะพื้นที่ที่ก่อสร้าง
หากเราสำรวจข้อมูลและเช็คข้อควรรู้ทั้ง 3 ข้อนี้ให้ครบก่อนเริ่มต้นก่อสร้าง จะช่วยให้เราสามารถเริ่มต้นงานก่อสร้างในขั้นตอนต่อไปได้อย่างมั่นคง แม่นยำและเป็นไปตามที่ต้องการได้มากกว่าเดิม