โครงสร้างเหล็ก ตัวช่วยสำหรับงานก่อสร้างในวันที่แรงงานขาดแคลน

จากเหตุการณ์โรคระบาดโควิด – 19 เมื่อช่วงปีที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อต่อหลายๆวงการ รวมไปถึงแวดวงการก่อสร้างด้วย ทำให้การก่อสร้างที่ดำเนินอยู่หยุดชะงัก ถึงแม้ว่าในตอนนี้สถานการณ์จะกลับมาฟื้นตัวได้มากขึ้นแต่การก่อสร้างก็ยังคงต้องพบเจอกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานเพราะการไหลออกของคนงานในพื้นที่และขาดแรงจูงใจในการกลับมาทำงาน เมื่อแรงงานน้อยแต่มีความต้องการมาก ค่าแรงก็เพิ่มสูงขึ้น งานก่อสร้างก็อาจล่าช้าออกไปเพราะจำนวนแรงงานไม่เพียงพอ การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างอย่างเหล็กที่เอื้อต่อการใช้แรงงานและเวลาน้อยจึงเป็นทางเลือกที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้รับเหมาและเจ้าของโครงการได้ดี


เพราะโครงสร้างเหล็กคุ้มค่า คุ้มเวลา คุ้มคุณภาพ

ด้วยราคาวัสดุเหล็กที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้งานหลายคนเกิดความกังวลและไม่มั่นใจในการเลือกใช้เหล็กในงานก่อสร้าง แต่ถ้าหากเรามองถึง “ความคุ้มค่าของเหล็ก” ที่ตอบโจทย์ให้กับผู้ใช้งานและการก่อสร้างอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นความรวดเร็วในการก่อสร้างที่ช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้นไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน ความแข็งแรงที่ตรวจสอบและมั่นใจได้ตั้งแต่กระบวนการผลิต การติดตั้งที่ง่ายสามารถจัดการงานให้เสร็จได้แม้ใช้คนน้อย

เพราะโครงสร้างเหล็กคุ้มค่า คุ้มเวลา คุ้มคุณภาพ ด้วยราคาวัสดุเหล็กที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้งานหลายคนเกิดความกังวลและไม่มั่นใจในการเลือกใช้เหล็กในงานก่อสร้าง แต่ถ้าหากเรามองถึง “ความคุ้มค่าของเหล็ก” ที่ตอบโจทย์ให้กับผู้ใช้งานและการก่อสร้างอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นความรวดเร็วในการก่อสร้างที่ช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้นไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน ความแข็งแรงที่ตรวจสอบและมั่นใจได้ตั้งแต่กระบวนการผลิต การติดตั้งที่ง่ายสามารถจัดการงานให้เสร็จได้แม้ใช้คนน้อย

เพราะโครงสร้างเหล็กตอบโจทย์การก่อสร้างยุค New Normal

แต่เดิมการก่อสร้างเป็นการทำงานที่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากและต้องใช้แรงงานจำนวนมากในการดำเนินการ เมื่อประสบกับปัญหาโรคระบาดและการขาดแคลนแรงงานในหลายปีมานี้ จึงส่งผลให้การก่อสร้างที่ต้องใช้คนจำนวนมากหยุดชะงักลง การมองหาแนวทางหรือวัสดุที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาแรงงานให้สอดคล้องกับ New Normal จึงเกิดขึ้น

ซึ่งวัสดุเหล็กก็ได้เข้ามาเป็นตัวเลือกและตัวช่วยที่เหมาะสมในการช่วยปรับเปลี่ยนให้การก่อสร้างเดินหน้าต่อไปได้ เพราะโครงสร้างเหล็กสามารถดำเนินการได้อย่างคล่องตัวแม้จะต้องรักษาระยะห่างและลดจำนวนคนงานที่หน้างานลง ให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการงานก่อสร้างให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบันและมั่นใจในคุณภาพของการก่อสร้างและวัสดุได้ในทุกขั้นตอน

เพราะโครงสร้างเหล็กสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

EIC หรือ Economic Intelligence Center ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ได้วิเคราะห์ว่าการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยเข้ามาช่วยในการก่อสร้าง จะช่วยเพิ่มการขยายตัวในภาคการก่อสร้างได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ Prefabrication, Modular System หรือการออกแบบโดยระบบ BIM รวมไปถึงการมีบริการเสริมที่ช่วยอำนวยความสะดวกและรองรับผู้ใช้งานได้ตั้งแต่ต้นจนจบ จะช่วยให้การก่อสร้างลดขั้นตอนและแรงงานที่ไม่จำเป็นลงได้และส่งผลให้การก่อสร้างสามารถดำเนินการได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ

ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้การใช้แรงงานน้อยลงและระบบก่อสร้างแบบสำเร็จรูปจะเป็นกุญแจสำคัญในการไขปัญหาในแวดวงการก่อสร้างได้มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของค่าแรงและการขาดแคลนแรงงาน ด้วยเทคโนโลยีและแนวโน้มทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ทำให้เหล็กเป็นวัสดุที่พร้อมและสอดรับกับการก่อสร้างที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้มากที่สุด เพราะเป็นวัสดุที่สามารถวางแผน ตัด ติดตั้งและให้บริการเสริมให้เข้ากับระบบการก่อสร้างต่างๆ เช่น Prefabrication หรือ Modular System ได้อย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้น ช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมและให้ผู้ประกอบการจัดการงานก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว