การดูแลบ้านเหล็กต่างจากบ้านคอนกรีตอย่างไร

‘เหล็ก’ ถือเป็นโลหะที่ถูกนำมาใช้สร้างบ้านมากที่สุด ซึ่งเมื่อพูดถึงเหล็กก็ย่อมนึกถึงสนิม (rusting) เป็นของคู่กัน สนิมเหล็กเกิดจากสารประกอบระหว่างเหล็กกับออกซิเจน มีชื่อทางเคมีคือ ไฮเดรตเฟอริกออกไซด์ ลักษณะเป็นคราบสีแดง ซึ่งหลายคนมักมีความกังวลในเรื่องนี้ แต่ในความจริงแล้วเจ้าของบ้านเองก็สามารถรับมือการเกิดสนิมด้วยตัวเองได้ง่ายๆ


1. การเลือกสีกันสนิม

การเลือกสีมาทาเพื่อกันสนิมนั้นมีเทคนิคการเลือกง่ายๆ เพื่อให้ได้งานที่ทาออกมาได้ผลดี สีทั้งหมดที่ทาควรมาจากผู้ผลิตรายกันเดียว เพื่อป้องกันปัญหาส่วนผสมที่อาจทำปฎิกิริยาระหว่าง 2 ยี่ห้อที่ไม่เหมือนกัน และสีที่สั่งมาต้องบรรจุอยู่ในภาชนะที่ปิดแน่น ที่สำคัญอย่าลืมดูส่วนประกอบโดยเฉพาะ Chlorinated rubber และ ผงสีซิงค์โครเมท ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ทำให้สียึดเกาะกับเหล็กและป้องกันการเกิดสนิมนั่นเอง


2. การทาสีรองพื้น

ขั้นตอนการทาสีรองพื้นถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการดูแลบ้านเหล็ก เริ่มจากการทำความสะอาดผิวเหล็กให้สะอาด และทาสีกันสนิม 2 ชั้น ห้ามทาสีในขณะที่ผิวเหล็กมีความร้อน เพราะจะทำให้สีบวมหรือเกิดฟองได้ โดยให้ความหนาของสีในชั้นนี้ไม่น้อยกว่า 90 ไมครอน วัดขณะที่สีแห้ง


3. ตรวจเช็คจุดเสี่ยงเกิดสนิม

จุดที่มักเสี่ยงต่อการเกิดสนิมมักเป็นบริเวณที่มีพื้นผิวติดกับดินหรือมักจะโดนน้ำเป็นประจำ เช่น ฐานเสาบริเวณโรงรถ พื้นที่ซักล้างของบ้าน รอยต่อรางน้ำและจุดที่เชื่อมเหล็ก แก้ปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยการทาสี coal tar epoxy เพื่อเป็นการรักษาผิวเหล็ก และเปลี่ยนการเชื่อมเหล็กเป็นการใช้ขันสลักเกลียวและน็อตเข้ารูที่เจาะมาจากโรงงาน ซึ่งนอกจากจะเป็นการดูแลรักษาบ้านเหล็กแล้ว ยังช่วยให้สร้างบ้านได้รวดเร็วตามคุณสมบัติของบ้านเหล็กอีกด้วย


4. เลือกใช้เหล็กพร้อมสร้าง!

หากระยะเวลาการสร้างบ้านของคุณมีจำกัดและไม่อยากเสียเวลาในการต้องทาสีรองพื้นทับไปทับมาหลายรอบ สามารถเลือกใช้เหล็กที่ผ่านกระบวนการกันสนิมมาแล้วจากผู้ผลิตได้เลย อย่างเหล็กชุบกัลวาไนซ์หรือเหล็กที่ชุบเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อน (hot dip galvanizing) ปิดทับผิวเหล็กไว้ และเหล็กกล้าไร้สนิม (Stainless steel) ที่ตัวเหล็กเองจะมีชั้นฟิมล์บางๆ ที่ติดแน่น เคลือบบนผิวเหล็กป้องกันไม่ให้เหล็กสัมผัสอากาศโดยตรงซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสนิม