BAANSOMTUM HQ อาคารเหล็กที่ถูก เร็ว ดี เหมือนส้มตำ

ออกแบบ: สุวภัทร ชูดวง

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ “บ้านส้มตำ” เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในฐานะร้านอาหารไทยอีสานร่วมสมัยที่สร้างชื่อเสียงมายาวนานกว่า 10 ปี คือรสชาติอร่อยแบบเดียวกันทุกๆ จานในทุก 7 สาขาทั้งในใจกลางและรอบเมืองกรุงเทพฯ คุณภาพและมาตรฐานในจานอาหารของบ้านส้มตำ ดูจะสอดคล้องกันกับงานออกแบบอาคารส่วนกลางหลังใหม่ ที่ใช้เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนเป็นโครงสร้าง อันนำมาซึ่งความสวยงาม คงทน และมีมาตรฐาน เฉกเช่นเดียวกัน

“BAAN SOMTUM HQ” หรือสำนักงานใหญ่ของบ้านส้มตำ เป็นอาคารทำการใหม่อันมีหน้าที่เป็นพื้นที่จัดการข้อมูล ระดมความคิด รังสรรค์เมนู เหมือนเป็นครัวส่วนกลางในการส่งต่อความรู้และเมนูใหม่ๆ ไปยังทุกๆ สาขาทั่วกรุงเทพ ครอบครัวชูดวงเจ้าของธุรกิจและเจ้าของโครงการ ได้สถาปนิกสุวภัทร ชูดวง ผู้เป็นทายาท สานต่อธุรกิจร้านอาหารและต่อยอดการออกแบบอาคารหลังใหม่หลังนี้ด้วยตัวเอง

“เราอยากจะทำงานที่ถูกและดี” คุณสุวภัทรกล่าว “ซึ่งคำว่าถูกและดีความจริงมันก็ใกล้คำว่าส้มตำเหมือนกัน เพราะส้มตำมันถูก หาง่าย มันจับสิ่งรอบตัวมาใช้”

เสน่ห์อย่างหนึ่งของส้มตำ ดูจะเป็นความโกลาหลในจานอาหาร แต่ทว่าเมื่อมันก็เกิดจากวัตถุดิบที่เรียบง่ายและใกล้ตัว จึงดูจะใช้เชื่อมโยงกับการออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่แห่งนี้ได้อย่างน่าสนใจ สถาปนิกกล่าวว่า เขาใช้ความเรียบง่ายที่สัมผัสได้ในส้มตำ มาทำงานกับสถาปัตยกรรมโดยเลือกใช้ระบบการก่อสร้างและวัสดุที่เรียบง่ายและเป็นพื้นฐาน ซึ่งคลี่คลายออกมาเป็นการออกแบบโดยยึดหลักจากพิกัดวัสดุในท้องตลาดที่มักจะมีระบบโมดูลาร์ของตัวเอง คืออยู่ในพิกัดขนาด 1.2 x 2.4 เมตร เป็นส่วนใหญ่

วัสดุอุตสาหกรรมอย่างแผ่นไม้อัด ซีเมนต์บอร์ด กระจก เมทัลชีท จึงเป็นวัสดุที่เราจะพบได้เป็นส่วนใหญ่ในอาคารหลังนี้ มากไปกว่านั้น วัสดุทั้งหมดถูกพยุงขึ้นด้วยระบบโครงสร้างแบบแห้ง (Dry Process) ของเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน ซึ่งผ่านการคำนวณให้สอดคล้องไปกับพิกัดวัสดุที่ถูกวางไว้แต่เดิม

สถาปนิกกล่าวว่า เขาเลือกใช้ระบบโครงสร้างแบบแห้งและเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนเป็นระบบของอาคาร ด้วยเห็นว่าเป็นระบบโครงสร้างที่คุ้นเคยในภูมิภาคตั้งแต่โบราณ โดยเฉพาะจากงานบ้านไม้ในอดีต ในอีกแง่หนึ่ง เขายังต้องการจะทดลองนำแนวคิดแบบเดียวกันกับบ้านไม้มาประยุกต์ใช้กับวัสดุอุตสาหกรรมในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นไม้อัด ซีเมนต์บอร์ด กระจก เมทัลชีท รวมไปถึงตัวโครงสร้างเหล็กเอง 

สัดส่วนทั้งหมดของอาคาร จึงเกิดจากพิกัดของบรรดาวัสดุเป็นผู้กำหนด นอกจากจะดูลงตัวเป็นสัดส่วน การใช้วัสดุอุตสาหกรรมที่ถูกคำนวณมาให้มีระยะตรงกับพิกัดของวัสดุในทุกๆ องค์ประกอบ ยังทำให้แทบไม่เกิดขยะหรือเศษเหลือจากการก่อสร้าง การควบคุมงบประมาณและค่าใช้ง่ายก็ทำได้ง่าย

เช่นเดียวกับการใช้เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน ที่เอื้อให้การขึ้นโครงสร้างนั้นทำได้ง่าย รวดเร็ว ลดขยะ โดยเฉพาะเมื่อถูกคิดคำนวณด้วยพิกัดวัสดุเรียบร้อยแล้ว ด้วยการที่เหล็กเป็นวัสดุที่ถูกผลิตสำเร็จจากโรงงานอย่างมีมาตรฐานเช่นเดียวกับวัสดุปะกอบอื่นๆ อาคารสองชั้นพื้นที่ใช้สอยรวม 250 ตารางเมตรเช่นอาคารนี้ จึงสร้างเสร็จภายในระยะเวลา 4 เดือนเท่านั้น และสถาปนิกยังกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายที่ตามมาก็ไม่สูงไปกว่าการใช้ระบบโครงสร้างรูปแบบอื่นแต่อย่างใด

เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนและวัสดุอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ปรากฏในอาคารส่วนกลางหลังใหม่ของบ้านส้มตำ ยังสอดคล้องกับแนวคิดการแสดงความงามของวัสดุอย่างตรงไปตรงมาที่สถาปนิกตั้งใจ BAAN SOMTUM HQ แห่งนี้ จึงทั้งสวย ถูก และดี เหมือนอย่างที่ส้มตำของ “บ้านส้มตำ” ติดปากคนทุกคน