Connection for High strength steel (SM520)

การออกแบบ และก่อสร้างด้วยโครงสร้างเหล็กกำลังสูง (High Strength Steel) กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากช่วยลดต้นทุนค่าก่อสร้างได้เป็นอย่างมาก  ซึ่งนอกจากเหล็ก H-Beam Grade SM520 ที่ถูกนำไปใช้เป็นโครงสร้างหลักของอาคารแล้ว วัสดุประกอบต่างๆ เช่น เหล็กแผ่น (Steel Plate, Cleat), สลักเกลียว (Bolt) และลวดเชื่อม (Welding Electrode) ก็มีชั้นคุณภาพกำลังสูง (High Strength Grade) เช่นเดียวกัน  ถ้าหากผู้ใช้งานได้ออกแบบเป็น Grade High Strength ร่วมกันทั้งโครงสร้าง(Member) และจุดต่อ(Connection)  ก็จะยิ่งช่วยลดต้นทุนค่าก่อสร้าง และเวลาการทำงานลงไปได้อีกมาก ส่วนชั้นคุณภาพเหล็กกำลังสูงตามมาตรฐานรุ่นใด ที่นิยมใช้ในปัจจุบันนกับการก่อสร้างในประเทศไทย วันนี้ H-BEAM CONNECT ได้รวบรวมข้อมูลมาให้ครับ


1. เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน (Hot-rolled structural steel)

H-Beam Grade SM520 ที่ถูกนำไปใช้ออกแบบเป็น เสา, คาน, โครงสร้างหลังคา ด้วยคุณสมบัติที่สามารถเชื่อมประกอบโครงสร้างได้ดี และยังมี Yield Strength ขั้นต่ำสูงถึง 3,600 kg/sq.cm.


2. เหล็กแผ่น (Steel Plate, Cleat)

มีความสำคัญในการใช้ต่อทาบเสา, คาน และโครงหลังคา ซึ่งสามารถใช้ชั้นคุณภาพ SS400 ในการออกแบบได้ หรือถ้าหากใช้ชั้นคุณภาพกำลังสูง Grade SM520 ตามมาตรฐาน มอก. ก็จะทำให้สามารถลด Stress Ratio หรือลดความหนาของเหล็กแผ่นที่ต้องใช้ลงได้ แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาเรื่อง Bearing, Tearing Capacity ร่วมด้วยเช่นกัน


3. สลักเกลียว (Bolt)

การใช้งาน High Strength Bolt เป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากจะทำให้สามารถลดขนาดและจำนวน Bolt ลงได้ ซึ่งจะทำให้ลดการเจาะรูที่เหล็กรูปพรรณและเหล็กแผ่นลงด้วยเช่นกัน โดยมาตรฐานที่นิยมใช้งานจะแบ่งได้ 2 มาตรฐานดังนี้

  1. ASTM Standard – ชั้นคุณภาพที่นิยมใช้คือ Class 8.8 (เทียบเท่า Grade A325)
  2. JIS Standard – คือ ชั้นคุณภาพที่นิยมใช้คือ F10T หรือ S10T (Twist-off bolt)

4. ลวดเชื่อม (Welding Electrode)

ปัจจุบันช่างเชื่อมส่วนมากนิยมใช้ลวดเชื่อม Grade E70 ซึ่งเป็น High Strength Grade อยู่แล้ว เนื่องจากสามารถใช้เชื่อมเหล็กได้ทั้ง Grade SM520 และ SS400 และมีความแข็งแรงกว่า Grade E60

ทั้งนี้ SYS และ AIT ได้ร่วมกันพัฒนา Connection Design Software เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานโครงสร้างเหล็ก สามารถนำไปใช้ออกแบบ เพื่อที่จะช่วยลดต้นทุน และเวลาในการก่อสร้างอาคารโครงสร้างเหล็ก และโปรแกรมนี้ยังสามารถนำเสนอผลการออกแบบเป็น File Auto CAD ได้ สมาชิกท่านใดสนใจสามารถ Download ไปใช้ออกแบบกันได้โดยมีรูปแบบรอยต่อ 6 แบบ ดังนี้

1. Welded Shear Plate

2. Angle Cleat Plate

3. Bending Moment End Plate

4. Bending Splice Plate

5. Welded Shear Plate (Weld)

6. Bending Moment End Plate (Weld)