มาตรฐานเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน

เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน มากมายหลายมาตรฐาน ประเทศผู้ผลิตเหล็กจะผลิตเหล็กโดยมีมาตรฐานเป็นของตนเอง เพื่อให้ประเทศที่มีการจัดการอุตสาหกรรมแบบเดียวกันยอมรับและ นำไปใช้งาน มาตรฐานเหล็กตามระบบที่นิยมใช้กัน เป็นมาตรฐานสากล มี 3 ระบบ คือ

  1. ระบบอเมริกา นิยมใช้กัน 2 มาตรฐาน
    • ระบบ AISI (American Iron and Steel Institute)
    • ระบบ SAE (Society of Automotive Engineer)
  2. ระบบเยอรมัน เรียกว่า DIN (Deutsch Industrial Norms)
  3. ระบบญี่ปุ่น เรียกว่า JIS (Japanese Industrial-Standards)

มาตรฐานของเหล็กรูปพรรณรีดร้อนของทุกประเทศ จะถูกกำหนดการควบคุมคุณภาพการผลิตสินค้าใน 4 ประเด็นหลักๆ ได้แก่

  1. ชั้นคุณภาพ (Grade): เช่น A36 ของมาตรฐานประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเทียบเท่ากับ ชั้นคุณภาพ SS400 ของ มอก. และ ชั้นคุณภาพ SM520 ซึ่งเป็นชั้นคุณภาพของเหล็กกำลังสูง ของ มอก. เป็นต้น โดยแต่ละชั้นคุณภาพจะมี 2 หลักเกณฑ์ในการแบ่งชั้นคุณภาพดังนี้
    • คุณสมบัติทางกล (Mechanical Properties) เช่นคุณสมบัติในการต้านทานแรงดึงที่จุดคราก (Yield Point) ฯลฯ
    • ส่วนประกอบทางเคมี (Chemical Compositions) เป็นการควบคุมสารเจือปนต่างๆในน้ำเหล็ก
  2. ขนาดของหน้าตัด (Dimension): เหล็กรูปพรรณรีดร้อนของแต่ละประเทศจะมีขนาดหน้าตัดมาตรฐานที่ถูกควบคุม เช่นความหนา, ความกว้างปีก, ความลึก, พื้นที่หน้าตัด ฯลฯ
  3. เกณฑ์ความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ (Tolerance): วิธีการทดสอบทางด้านต่างๆ

ดังนั้นในการเลือกซื้อ หรือออกแบบเหล็กรูปพรรณรีดร้อนหน้าตัดมาตรฐาน 1 หน้าตัด จึงควรที่จะระบุทั้ง “ชั้นคุณภาพ” และ “ขนาดของหน้าตัด” เช่น H300x300x10x15 Grade SS400 หรือ H300x300x10x15 Grade SM520 เป็นต้น

ตารางเปรียบเทียบ H 300X300X15 Grade SS400, SM520

จากตาราง  ทั้ง 2 หน้าตัดซึ่งมีขนาด (Dimension) เท่ากัน แต่จะมีคุณสมบัติในการรับแรงดึงที่แตกต่างกันถึง 50% เนื่องจากเป็นคนละชั้นคุณภาพกัน ซึ่งหากเลือกใช้ผิดชั้นคุณภาพ ก็จะมีผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารได้

เพื่อป้องกันการสับสนในการใช้สินค้าผิดชั้นคุณภาพ ดังนั้นในมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. 1227-2539 จึงได้มีการระบุในหัวข้อ “เครื่องหมายและฉลาก” โดยบังคับให้ที่เหล็กทุกท่อนจะต้องมีการระบุ “ชั้นคุณภาพ” และ “ชื่อโรงงานผู้ผลิต” ในรูปแบบตัวอักษรนูน (Brandmark) เพื่อป้องกันสินค้าจากโรงงานที่ไม่ได้การรับรองมาตรฐาน

ส่วนรายละเอียดทางด้าน ขนาด, ความหนา, ความยาว และหมายเลขการหลอมแต่ะละครั้ง จะมีการแสดงข้อมูลอยู่ในรูปแบบของ Sticker ซึ่งเหล็กรูปพรรณรีดร้อนจาก SYS ทุกท่อนจะผ่านขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพ และทำการทดสอบคุณสมบัติด้านต่างๆ ตามมาตรฐานที่ลูกค้าสั่งซื้อเช่น มาตรฐาน มอก.1227-2539 แล้วจะพิมพ์ผลการทดสอบใน “Mill Inspection Certificate” ซึ่งจะแสดงผลการทดสอบต่างๆดังนี้

  • Yield Point : ความต้านแรงดึงที่จุดคราก
  • Tensile Strength : ความต้านแรงดึง
  • Elongation  : ความยืดตัว
  • Bend Test – การดัดโค้ง
  • Impact Test : ความต้านการกระแทก
  • Chemical Composition : ส่วนประกอบทางเคมี

โดยลูกค้าที่ซื้อเหล็กจาก SYS สามารถขอข้อมูลผลการทดสอบสินค้าหรือ “Mill Inspection Certificate” ได้จากร้านผู้แทนจำหน่ายที่ซื้อสินค้า หรือจาก SYS โดยแจ้ง Heat Number ที่ปรากฎบน Sticker เพื่อขอรับ Mill Certificate ได้ครับ